:: TRIP & TREK :: โลกกว้างของคนเดินทาง ::

  :.> เรื่องเล่าจากสีชัง..อัญมณีเม็ดงามแห่งท้องทะเลไทย

เรื่อง :.Joyful ภาพ :.Lighthouse


เจดีย์อัษฏางค์นิมิตร ซึ่งครั้งนึงเคย
เป็นที่สำหรับนั่งวิปัสนากรรมฐานของ
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอ
ยู่หัว

เก็บภาพพระตำหนักทั้งสามหลังแล้ว เราก็ขึ้นไปยังเจดีย์อัษฏางค์นิมิตร หรือ พระอุโบสถเจดีย์ ที่อยู่บนยอดเขาด้านหลัง
ของพระจุฑาทิศราชฐาน พระอุโบสถแห่งนี้มีความแตกต่างจากอุโบสถที่อื่น ๆ เพราะมีหลับคาที่ก่อเป็นเจดีย์ทรงกลม ด้านในปูด้วยหินอ่อนสีขาวสลับดำดำอย่างงดงาม ประดิษฐานพระพุทธรูปหนึ่งองค์ และมีหน้าต่างทรงสูงโดยรอบ 14 บาน มีประตูทางเข้าด้านทิศตะวันออกหนึ่งประตูและทิศตะวันตกอีกหนึ่งประตู ทั้งประตูและหน้าต่างทำเป็นรูปโค้ง ยอดแหลมแบบโกธิค นอกจากนี้ยังมีช่องรับแสงกรุด้วยกระจกสีแบบตะวันตก เป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่าง
ตะวันออกและตะวันตกได้อย่างลงตัว และหากมองย้อนถึงความสำคัญทางประวัตศาสตร์ ที่เจดีย์อัษฏางค์นิมิตรแห่งนี้
เคยเป็นที่สำหรับนั่งวิปัสนากรรมฐานของ ร.5 ในขณะที่เสด็จประพาสเกาะสีชัง

ครั้งนี้ถือว่าโชคเข้าข้างเราอย่างมาก เพราะว่าทางกรมศิลปากรได้ส่งเจ้าหน้าที่ มาเฝ้าดูแลพระตำหนักทั้งสามหลัง รวม
ทั้งที่เจดีย์อัษฏางค์นิมิตร ทำให้เราได้เข้าชมด้านในของเจดีย์ นอกจากนี้เจ้าหน้ายังใจดีพาเราเดินบุกป่าฝ่าดงหญ้า ไปจน
ถึงบ่ออัษฏางค์ที่เป็นบ่อน้ำธรรมชาติ ซึ่งเคยผันไปใช้ในพระราชฐาน

:. บ่อน้ำอัษฎางค์
จากที่นี่เราย้อนกลับไปที่ช่องเขาขาด-หาดหินกลม ที่เป็นจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกที่หนึ่งบนเกาะสีชัง อ่าวช่องขาด
เป็นอ่าวเล็ก ๆ ทางทิศตะวันตกของเกาะ สามารถชมพระอาทิตย์ตกได้ที่นี่ และยังเป็นจุดที่สามารถตกปลาได้อีกหนึ่ง
จุดบนเกาะสีชัง ถ้าหันหน้าสู่ทะเลเบื้องหน้าจะเห็นเส้นขอบฟ้าเลือนลาง หากวันไหนท้องฟ้าเปิดจะมองเห็นผืนน้ำ
สีครามตัดกับท้องฟ้าสีฟ้า ซึ่งสวยงามราวกับภาพวาดทีเดียว

ด้านขวามือเป็นพลับพลาที่ประทับ ร.5 ครั้งเสด็จประพาสที่ช่องเขาขาด ขณะนี้ได้มีการบูรณะขึ้นอีกครั้งทั้งยังมีการ
จัดทำศาลาชมวิวขึ้นอีกถึงสามหลัง อาทิตย์บ่ายคล้อยลมเย็น ๆ ที่ศาลาชมวิวทำเอาเคลิ้ม ๆ เกือบเผลอหลับไป ท้องฟ้า
ยังเต็มไปด้วยหมู่เมฆโอกาสที่จะได้ชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าเลือนลางเต็มที เห็นท่าไปรอที่หาดถ้ำพังอาจจะโชคดี
บ้าง ขับมอเตอร์ไซค์ย้อนมาเพื่อมุ่งหน้าไปยังหาดถ้ำพัง ที่หาดถ้ำพังตอนนี้มีแสงอาทิตย์แรงพอควร ทำให้ใจชื้นขึ้น
มาบ้างว่าอาจจะได้ชมพระอาทิตย์อัสดง เอาผ้าใบมาปูแล้ววาดโปสการ์ดไปพลาง ดูเด็ก ๆ เล่นน้ำไปพลาง จนเกือบ ๆ ห้าโมงเย็นพระอาทิตย์หายเข้ากลีบเมฆไปไม่มีวี่แววที่จะปรากฏกายอีก

พวกเราถึงได้ล่าถอยกลับที่พัก อาบน้ำ-อาบท่าเรียบร้อย เราก็ออกตระเวนหาร้านอร่อยสำหรับทานมื้อเย็น สีชังยามเย็นนี่ช่างเงียบสงบนัก ไม่มีแสงสีเหมือนกันเมืองศรีราชา
บ้านเรือน ร้านค้า ปิดประตูกันเงียบ มีร้านขายอาหารตามสั่งเปิดอยู่เพียงไม่กี่ร้านเท่านั้น คืนนี้มีเพียงร้านใบเฟิร์น ร้านอาหารทะเลหนึ่งในสองแห่งบนเกาะสีชัง ที่ยังเปิดให้
บริการนักชิมต่างถิ่นอย่างเรา เมนูคืนนี้มี ปลาอินทรีย์ทอดราดน้ำปลา ต้มยำทะเล-ยอดมะพร้าวอ่อน และเมนูแนะนำจากทางร้านที่บอกว่าหาทานได้เพียงที่สีชังแห่งนี้ เป็น
หอยฟันกระต่ายทอดกระเทียม ไม่นานนักอาหารทุกอย่างวางอยู่ตรงหน้า ต่างคนต่างนั่งพิจารณาเจ้าหอยฟันกระต่าย หน้าตาคล้าย ๆ หอยเชลล์ ที่จะมีเนื้อเป็นชิ้นกลม ๆ สีขาว แต่ว่ามีเนื้อสีส้มติดมาคล้าย ๆ กับหอยแครง ในที่สุดเราได้หน่อยกล้าตายลองชิมเจ้าหอยฟันกระต่าย.... "อื้อ.. อร่อย อร่อยมากเลย เนื้อมันคล้าย ๆ หอยเชลล์ เนื้อหวานเชียวแหละ" เท่านั้นแหละเราที่คอยอยู่นานก็ได้ชิมเจ้าหอยฟันกระต่ายที่อร่อยมากทีเดียว กินไปสงสัยไปเลยขอให้เด็กในร้านไปหยิบเปลือกหอยมา
ให้ดูที เจ้าเปลือกหอยนี่คล้าย ๆ กะหอยนางรม แต่ว่าบนเปลือกจะมีหนามแหลม ๆ ขึ้นเต็มไปหมด ซึ่งอาจจะเป็นที่มาของชื่อหอยฟันกระต่ายอิ่มอร่อยพุงกางพร้อมด้วยบิล
เก็บเงินราคาเป็นมิตรกับกระเป๋า อาหารสามอย่างเพียง 230 บาทเท่านั้น อร่อยแล้วก็ถูกมากทีเดียว ถึงที่พักแล้ว หนังท้องตึงหนังตามันก็หย่อน ล้มตัวลงนอนหลับไป


:. อ่าวช่องเขาขาด-หาดหินกลม

24 สิงหาคม 2545

รุ่งอรุณของวันใหม่ แววเสียงทำวัตรเช้าจากวัดเจ้าพ่อเขาใหญ่ อาบน้ำ-อาบท่า แล้วได้เวลาไปจัดการกับมื้อเช้า
ที่ร้านอาหารใกล้ ๆ บ้านพัก กลับมาเก็บข้าวของแล้วคืนกุญแจห้องพัก เช้านี้เราจะไปตระเวนเก็บภาพที่ช่องเขา-
ขาด แหลมถ้ำพัง และหาดถ้ำพัง เพราะเมื่อวานท้องฟ้าช่างไม่เป็นใจสำหรับการเก็บภาพเอาซะเลย

ที่ช่องเขาขาดเช้านี้แดดทอแสงจับกับระลอกคลื่นเป็นประกาย มองเห็นน้ำทะเลสีเขียวใส เอ.. เพิ่งสังเกตุว่าน้ำ
ทะเลที่นี่ใสมากทีเดียว เก็บภาพกันหลายภาพแล้วมุ่งหน้าสู่แหลมถ้ำพังที่มีนักตกปลามาจับจองทำเลเหมาะ
สำหรับตกปลากันอยู่หลายคน ที่แหลมถ้ำพังมีมุมถ่ายภาพสวย ๆ หลายมุมทีเดียว จากนั้นก็ย้อนกลับไปที่หาด
ถ้ำพัง แดดสวย ๆ วันนี้ทำให้เราได้รู้ว่าทรายที่นี่ก็ขาวละเอียดไม่เป็นรองใคร แถมน้ำทะเลยังใสและสะอาด
มาก ๆ น่าเสียดายที่ใคร ๆ ก็มองข้ามอัญมณีเม็ดงามนี้ไป

:. ชายหาดขาว ๆ น้ำใส ๆ และทรายละเอียดที่หาดถ้ำพัง
เราทอดอารมณ์อยู่ที่หาดถ้ำพังจนเก็บ ๆ เที่ยงวัน ก็ได้เวลาคืนรถมอเตอร์ไซค์ที่เช่ามาจากทิวไผ่ เกสต์เฮ้าส์ คืนรถก็ต้องกลับมาพึ่งสองเท้าของเรากลับไปยังท่าเรือ เกือบ ๆ ถึงท่าเรือคุณลุงใจดี
ท่านนึงเห็นพวกเราแบกเป้พะรุงพะรัง ก็คงพอเดาออกว่าเป็นนักท่องเที่ยว

"ไปท่าเรือกันเหรอหนู" ลุงแกถาม
"ไปท่าเรือจ้ะลุงจะกลับแล้ว" เราตอบ
"เรือไม่เทียบท่าล่างนะ น้ำมันลงต้องไปลงเรือที่ท่าบนโน่น" ลุงแกว่า

แล้วพวกเราก็ต้องเดินขึ้นมาด้านเหนือเกาะ เดินไปก็ถามทางไปเรื่อยสรุปว่าเจ้าท่าบนนี่อยู่ถัดจาก
บ้านพักอารีย์ที่พวกเราพักกันนี่เอง ท่าบนจะมีร้านค้าขายพวกขอกฝาก หมึกแห้ง กุ้งแห้ง ปลาเค็ม
เยอะแยะไปหมด แต่ละร้านก็มีนักท่องเที่ยวไปอุดหนุนกันเนืองแน่น

หลังจากแวะกินน้ำหายเหนื่อยก็ได้เวลาลงเรือกันแล้ว นั่นไง.. เรือเทียบท่าอยู่นั่นว่าแล้วเราก็ลงเรือ
ไปเลยแต่เอ.. ทำไมมีแต่อาม่า อาซิ้มเต็มไปหมด

"เรือนี่เรือเหมานะครับ เข้าเทียบท่าที่เกาะลอย" เสียงจากเด็กเรือที่เดินตามลงมา ทำไขข้อสงสัย
"เรือเหมาแล้วไปได้ปะคะ ขึ้นท่าที่เกาะลอยก็ได้" เราถามเพราะไม่อยากจะเปลี่ยนเรือเท่าไหร่นัก
"ท่าจะขึ้นที่เกาะลอยก็ไปได้ครับ" เด็กเรือตอบด้วยท่าทีเป็นมิตร

เรือจอดรอบรรดาอาม่าทั้งหลายที่แวะซื้อของฝากกันร่วมชั่วโมง กว่าจะได้ฤกษ์ออกจากท่าแล้วเรา
และบรรดาอาม่ากว่าร้อยชีวิตก็มุ่งหน้าเข้าหาฝั่งศรีราชา เรือห่างออกจากท่าบนเรื่อย ๆ ใจยังอาลัยเกาะสีชังไม่หาย ไว้จะกลับมาพักจากความวุ่นวายของเมืองครั้งหน้า ยิ่งเรือออกจาก
ฝั่งมากเพียงใด น้ำทะเลก็ยิ่งขุ่นมากขึ้นเท่านั้น เวิ้งน้ำกว้างด้านหน้าเกาะสีชังแห่งนี้ เต็มไปด้วยเรือ
สินค้าที่ลอยลำรอขนถ่ายสินค้าไม่เคยว่างเว้นคงจะพออธิบายถึงสาเหตุของความสกปรกของน้ำ
ทะเลได้สีสิบนาทีต่อมาเรือก็เทียบท่าที่เกาะลอย เสียงเจ๊ด้านหลังแกปลุกเพื่อนว่าถึงฝั่งแล้ว พลาง
เหวี่ยงถุงน้ำอัดลมออกทางหน้าต่าง ถังขยะตั้งอยู่บนท่าเรือห่างออกไปไม่กี่สิบเมตร ทำไมคนเราช่างไร้สำนักต่อสิ่งรอบกายนัก โชคดีที่ถุงพลาสติกไปติดอยู่ที่กราบเรือ น้ำทะเลรอบ ๆ เกาะลอยต่างจากน้ำทะเลที่หาดถ้ำพังราวฟ้ากับดิน สีดำขุ่นและมีขยะลอยให้เห็น.. เราเลยเอื้อมไปเก็บมาทิ้งถังขยะบนท่าเรือได้ .. โชคดีที่ไม่มีนักท่องเที่ยวแบบนี้บนเกาะสีชัง

  หน้าที่ผ่านมา

Best view in Internet Explorer
Contact:
webmaster@tripandtrek.com
Copyright 2002 : www. Trip & Trek .Com All right reserved