|
||||||||||||||||||||||||||
23 สิงหาคม 2545 |
||||||||||||||||||||||||||
:.
หอนาฬิกาที่วงเวียนหน้าตลาดเทศบาล ด้านหลังมองเห็นหอคอยที่อยู่ในสวนสา- ธารณะเทศบาล ที่จัดไว้เป็นจุดชมวิว |
||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||
10
โมงเศษ ๆ เรามาถึงท่าเรือจรินทร์ ท่าเรือเมล์ระหว่างศรีราชา-เกาะสีชัง เรือที่นี่จะออกทุกชั่วโมง
โดยมีเรือของบริษัทเดินเรือสองบริษัทสลับกันออก เรือค่อนข้างใหญ่ ไม่ค่อยโคลงเคลงมากนัก แต่ขอแนะนำสำหรับผู้ที่นิยมการเมาเรือ ไม่ควรไปนั่งรอเรือออกจากท่าบนเรือค่ะ ไม่งั้นอาจจะได้ทำบุญให้อาหารปลาก่อนเดินทางเรือใช้เวลาเดิน ทางจากศรีราชาราว ๆ 40 นาที ก็พาเรามาส่งที่ท่าล่าง ที่เรียกท่าลางเพราะว่ามันค่อนมาทางท้ายเกาะ เหนือขึ้นไปไม่กี่ร้อยเมตรก็จะมีท่าบนที่ต้องมีสองท่าเพราะว่าเวลา น้ำลงเรือจะเข้าเทียบที่ท่าล่างไม่ได้ ต้องเข้าเทียบท่าบนแทน (เอ.. แล้วทำไมไม่มีแค่ท่าบนท่าเดียวเลยเนอะ) หลังจากฝ่าคลื่นคนขับสกายแล็ปมาได้ เราก็เลยไปหาที่พักกันก่อน เริ่มต้นที่ทิวไผ่ เกสต์เฮ้าส์ ซึ่งอยู่เลยท่าล่างมาทางทิศใต้ของเกาะ ห้องพักมีหลายราคา แต่ดูท่าทางจะอับลม ไปหน่อย แถมยังอยู่ท่ามกลางดงกระถิน มีเวลาเดินหาที่พักเยอะเลยเล่นตัวก่อน ขอเช่าแค่มอเตอร์ไซค์ ที่คิดค่าเช่าวันละ 250 บาทพร้อมน้ำมันเต็มถัง ตะลอนดูที่พักจนในที่สุด ก็ตัดสินใจพักที่ บ้านพักอารีย์ ที่มีป้ายเขียนไว้ด้านหน้าว่า "ถูกที่สุดในสีชัง" ด้วยสนนราคาห้องพัดลม สองท่าน ห้องน้ำในตัว 250 บาท / คืน ถ้าใครไม่ต้องการดื่มด่ำกับ บรรยากาศริมทะเล ราคาห้องพักที่นี่ถือว่าถูก แล้วสภาพห้องก็ถือว่าดีทีเดียว ถ้าหากต้องการดื่มด่ำกับบรรยากาศดี ๆ และชายหาดเงียบสงบ ไปพักที่บังกะโลหาดถ้ำพังเห็นที จะไม่ผิดหวัง ราคาห้องพักก็ตั้งแต่ 450-800 บาท/คืน |
||||||||||||||||||||||||||
:. "วัดเจ้าพ่อเขาใหญ่"
ที่เคารพและสักการะของชาวสีชัง และ |
|
|||||||||||||||||||||||||
เก็บข้าวของที่ห้องพักเรียบร้อย
ได้ฤกษ์ตะลอนกันซะที เราเริ่มกันที่วัดเจ้าพ่อ- |
||||||||||||||||||||||||||
จากนั้นก็ขับรถไปตามถนนสายเล็กมุ่งหน้าไปยังแหลมท่าวัง
อันเป็นที่ตั้งของพระจุฑาทิศราชฐาน สร้างขึ้นในวโรกาสที่สมเก็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
เสด็จแปรพระราชฐาน มาประทับอยู่ที่เกาะสีชัง ครั้งหนึ่งเคยมีพระตำหนักถึง 14 หลัง และมีทางเดินเชื่อมถึงกันหมด 26 ทางเดิน ปัจจุบันที่พระจุฑาทิศราชฐาน เหลือเพียงพระตำหนักสามหลัง คือ ตึกยาว ตึกวัฒนา และตึกผ่องศรี หากนั่งเงียบ ๆ ใต้ร่มเงามะขามใหญ่อายุนับร้อยปี แล้วมองย้อนไปถึงร่องรอยความงดงามของพระราชฐานแห่งนี้ในอดีต จะทำให้รู้สึก ถึงความสำคัญของสถานที่ขึ้นมาทันที และหากต้องการพักผ่อน ที่พระจุฑาทิศราชฐาน ยังร่มรื่นด้วยเงาไม้น้อยใหญ่ โดยเฉพาะต้นลั่นทมอันเป็นต้นไม้ที่ ร.5 ท่านทรงโปรด มาก จึงมีเห็นทั่วบริเวณ หากมีโอกาสมาเยือนพระจุฑาทิศราชฐานช่วงปลายหนาว จะได้พบกับความงามของดอกลั่นทมที่พร้อมใจกันผลิบานไปทั่วเนินเขา |
||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||
Best
view in Internet Explorer
Contact: webmaster@tripandtrek.com Copyright 2002 : www. Trip & Trek .Com All right reserved |
||||||||||||||||||||||||||