:: TRIP & TREK :: โลกกว้างของคนเดินทาง :: Traveller's WorldWide ::

  :.> เรื่องเล่าจากสายน้ำเดือด

เรื่อง :.Joyful ภาพ :.Lighthouse
เสาร์ 20 กรกฎาคม 2545

และแล้ว...วันที่รอคอยก็มาถึง เราถึงที่นัดหมายที่ปั๊มปตท. สนามเป้า ด้วยหัวใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ก็บ่ายวันนี้แล้ว ที่เราจะได้ล่องแก่ง
เป็นครั้งแรกในชีวิต.. จะเป็นอย่างไรบ้างหนอ... เจ็ดโมงเศษ ๆ สมาชิกทุกคนมาพร้อม ทั้ง ๆ ที่เวลานัดเป็นเจ็ดโมง งานนี้อย่าให้เผา
ว่าใครมาสาย.. อิ ๆ ทุกคนขึ้นนั่งประจำที่ แล้วออกเดินทางไปยัง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก เพื่อผจญสายน้ำโจนกันเป็นแห่งแรก ต่างคนก็งัดเอาอุปกรณ์ ฆ่าเวลา ไม่ว่าจะเป็น VCD , CD หนังสือ ข้าวหนมนมเนย แล้วแต่จะเตรียมกันมา บ่ายโมง..หลังจากนั่งหลับ
สัปหงกกันจนคอเคล็ด เราแวะกินข้าวกันที่ร้านหม้อแกง (มีหม้อข้าวด้วย) ข้าวปลาอร่อยใช้ได้

จากนี้ไม่กี่กิโลจะถึง อ.วัดโบสถ์ แต่ยังต้องเดินทางกันไปยังไร่ชลคุปต์ ที่อยู่ห่างไปอีกราว 60 กิโลเมตร เกือบ ๆ จะถึงที่หมายรถตู้
หนึ่งในสามคันลูกปืนล้อแตก อาจจะด้วยบรรทุกเกินอัตรา ดูรูปร่างของสมาชิกแต่ละคนแล้วคงเข้าใจ... กระจายคนไปนั่งรถคันอื่น ๆ แล้วเราก็ออกเดินทางกันต่อกว่าจะถึงไร่ชลคุปต์ ก็บ่ายสองโมงครึ่งแล้ว ทุกคนแยกย้ายกันไปกางเต็นท์ เปลี่ยนเสื้อผ้าสำหรับผจญ
สายน้ำกันอย่างรวดเร็ว สามโมงทุกคนก็กลับมารวมกันในชุดเต็มยศ เสื้อชูชีพสีสดกะหมวกกันน๊อคสีแปร๊น...ได้เวลาลุยแย้ววววว

^ บรรยากาศที่ร่มรื่นของบ้านพักไร่ชลคุปต์ ^ อีกมุมของบ้านพักริมน้ำโจน
สิบนาทีเศษเรานั่งรถมาจากไร่ชลคุปต์ มาที่หน่วยพิทักษ์ริมลำน้ำโจน คุณกนกผู้ดูแลการล่องแก่งสำหรับวันนี้ พาเราไปยังจุดชมวิว
น้ำโจน ที่จะมองเห็นแก่งน้ำโจน ที่เป็นชั้นน้ำตกสูงเมตรเศษ ๆ ขวางลำน้ำทั้งสาย "อ่ะ.. มาดูกันทุกคนเลยครับ จะได้ทำใจ
ไว้ก่อนเนี่ยแก่งแรกที่เราจะต้องลงกัน"
ฮือ ๆ ๆ ๆ ทำไมมันสูงขนาดน้านนนนนนนนนนน

หลังจากที่ดูแก่งน้ำโจนกันแล้ว จากใจกล้า ๆ กลัว ๆ เหลือเพียงแต่
ความกลัวล้วน ๆ ก็ไอ้กล้า ๆ น่ะมันหายไปตั้งกะไปถึงจุดชมวิวแล้ว
เจ้าหน้าที่อีกคนก็มาซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับอุปกรณ์การล่องแก่ง
และวิธีการปฎิบัติตัว ว่ากันไปตั้งแต่การปรับหมวกให้กระชับ เสื้อชูชีพ
ต้องใส่ให้แน่น ไม่งั้นเวลาที่เราตกน้ำ เสื้อชูชีพมันจะลอยขึ้นโดยที่
ตัวเรายังห้อยอยู่ข้างล่าง วิธีการนั่งบนเรือยาง วิธีการจับพาย วีธีการ
พาย การเก็บพายเวลาเข้าปะทะแก่ง การปฎิบัติตัวเวลาตกน้ำ ฯลฯ

เมื่อจบหลักสูตรล่องแก่งภาคทฤษฎีกันแล้ว คราวนี้ก็มาถึงภาคปฎิบัติกัน
แล้วล่ะ พวกเราก็เดินเท้าไปยังจุดขึ้นเรือริมน้ำโจนกระจายกันนั่งเรือยาง
ห้าลำ ลำละหกคน รวมคนคัดหัวเรือกะท้ายเรืออีกสองคน ทั้งหมด
แปดชีวิตก็พาเรือยางทะยานสู่สายน้ำ ที่อยู่เหนือแก่งโจน
ขึ้นมาราว
สองร้อยเมตร กว่าจะผ่านสายน้ำนิ่งมาจนถึงแก่งโจน ทุกคนก็เริ่ม
หอบแล้ว...

"โต้ง ๆ ๆ คัดเข้าไลน์ซ้ายไว้.." เสียงนายท้ายตะโกนสั่งนายหัวเรือ
มือใหม่เอี่ยมอ่องเสียงดัง...
"เอ้าทุกคนเก็บพาย...." นายท้ายตะโกนต่อ พวกเราเก็บพายแนบข้าง
เรือพร้อมกับจับเชือกและเอนตัวมาข้างหลัง เรือยางพาเรากระโจนจาก
น้ำตกสูงเกือบ ๆ สองเมตร
"กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ทุกคนส่งเสียงกรี๊ดกันอย่างพร้อมเพรียง ทันทีที่ท้องเรือกระทบผิวน้ำน้ำในแก่งที่เดือนผล่านก็ปะทะกับหน้า
พวกเราโครมใหญ่
"เอ้า.. ซ้ายพายขวาพาย.." พวกเราทั้งสองกราบเรือก็ตั้งหน้าตั้งตา
จ้วงจนหลุดออกมาจากแก่งได้ พร้อมกับเสียงเฮที่เอาชนะแก่งแรกมาได้
อย่างปลอดภัย แต่สายน้ำยังไหลเชี่ยวกราก พาเรือยางของเราแล่นฉิว
ไปชนเอาก้อนหินโครมเบ้อเร่อ ตามด้วยก้อใคร้กอใหญ่ที่อยู่ด้านหน้า
...เงียบกริบ... ไม่ยักกะมีใครกรี๊ดแฮะคราวนี้ อิ ๆ

^ เจ้าหน้าทีกำลังสอนวิธีการถือพาย
^ วิธีการเก็บพาย แล้วจับเชือกให้แน่น เอนตัว
ไปข้างหลัง เมื่อเข้าปะทะแก่ง ที่สำคัญต้องเอา
ขาเกี่ยวกับลูกบวบเรือไว้ รับรองไม่ตกน้ำ เว้นแต่เรือยางคว่ำ
หน้าต่อไป :.>

Best view in Internet Explorer
Contact:
webmaster@tripandtrek.com
Copyright 2002 : www. Trip & Trek .Com All right reserved