กลับหน้าแรก | กระดานข่าวสีเขียว - สีคราม
ค้นหาคำถาม
:: TRIP & TREK :: โลกกว้างของคนเดินทาง :: :: ทริปเดินทาง ::: พาใจไปเที่ยว :: :: TRIP & TREK :: โลกกว้างของคนเดินทาง ::
เชิญตั้งคำถามของคุณได้ที่นี่ครับ
บันทึกคนเดินทาง ตอน ที่นี่ไม่ใช่ซอร์สพริกศรีชา แต่เป็นศรีราชารสพริก (ตอนที่ 5)

เอาฤกษ์เอาชัยกับลำดับที่ 100 ด้วยคำประกาศของ ร.5 ให้กับชาวสีชังเมื่อวันที่ 1 กรกฏาคม รศ. 110
โดยคุณ ม่อน [2005-04-23 13:50:35] Bookmark and Share

โดยคุณ ฅนหลังเขา [2005-04-23 14:26:19] #1182 (1/18)
หายไปซะแระ....
โดยคุณ ม่อน [2005-04-24 00:04:40] #1184 (2/18)
มาต่อครับ

กาลเวลาของพระราชวังบนเกาะ

หลังจากเกิดกรณีพิพาทระหว่างไทยกับฝรั่งเศส เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๖ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวไม่ได้เสร็จแปรพระราชฐานยังเกาะสีชังอีกเลย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รื้อพระที่นั่งและพระตำหนักซึ่งเป็นเครื่องไม้ไปสร้างในที่อื่น นับจากนั้นมาพระจุฑาธุชราชฐานก็ร้างไป

เดิมเรือนในพระราชวังแห่งนี้มีหลายหลัง ปัจจุบันเหลือเพียง 3 หลังที่ยังอยู่ในสภาพดี ได้แก่ เรือนอภิรมย์ เรือนผ่อนศรี และเรือนวัฒนา
โดยคุณ ม่อน [2005-04-24 00:05:41] #1185 (3/18)

เรือนอภิรมย์ หรือ "ตึกยาว"

การดูแลรักษาพระราชฐานนั้นโปรดเกล้าฯ ให้กรมทหารเรือดูแลรักษา แล้วเปลี่ยนมาเป็นตำรวจภูธร ในปี ๒๔๕๐ ทรงอนุญาตให้กองตระเวนใช้เป็นที่ฝึกหัดเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีเป็นอันธพาลประพฤติชั่ว

ในปี ๒๔๘๘ ทางอำเภอศรีราชาตั้งโรงเรียนประชาบาลขึ้น ได้อาศัยเรือนอภิรมย์เป็นอาคารเรียน จนถึง พ.ศ. ๒๔๙๒ จึงได้ย้ายไปตั้งที่อื่น
โดยคุณ ม่อน [2005-04-24 00:06:45] #1186 (4/18)

เรือนผ่องศรี หรือ "ตึกกลม"

เป็นตึกแปดเหลี่ยมชั้นเดียว ตัวตึกทาสีขาวมี 9 ประตู ภายในมีพระบรมรูปหล่อจากพระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ 5 และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก พระราชโอรสซึ่งประสูติ ณ เกาะสีชัง เมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๔๓๕
โดยคุณ ม่อน [2005-04-24 00:07:32] #1187 (5/18)

เรือนวัฒนา เป็นตึกสี่เหลี่ยมผืนผ้า หลังคาทรงปั้นหยา มุงกระเบื้องเกล็ดเต่า ภายในมีประวัติเกี่ยวกับความเป็นมาของเกาะสีชังอย่างละเอียด
โดยคุณ ม่อน [2005-04-24 00:08:35] #1188 (6/18)

อีกมุมหนึ่งของเรือนวัฒนา บริเวณรอบๆเรือนหลังนี้เต็มไปด้วยต้นลั่นทมหลากสี บางต้นมีอายุยืนนานนับตั้งแต่รัชกาลที่ 5
โดยคุณ ม่อน [2005-04-24 00:09:45] #1189 (7/18)

สถานที่ภายในเรือนหลังนี้ถึงแม้จะคับแคบแต่ก็สะอาดตา เรือนที่มีหน้าต่างรอบด้านทำให้โลมโกรกได้สะดวกเย็นสบาย

เมื่อทอดสายตาออกไปด้านนอกจะพบต้นลั่นทมกำลังออกดอกหลากสีสัน ทำให้คุณประภาคาร(Lighthouse)คนนี้ถึงกับเพลินตาเพลินใจ
โดยคุณ ม่อน [2005-04-24 00:10:37] #1190 (8/18)
ในปัจจุบันเรือนทั้ง ๓ หลังนี้ได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงนิทรรศการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเกาะสีชัง ในสมัยของรัชกาลที่ ๕
เรือนอภิรมย์จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับสิ่งปลูกสร้างในสมัยรัชกาลที่ ๕
เรือนผ่องศรีจัดแสดงนิทรรศการพระราชประวัติและประวัติบุคคลผู้ที่มีบทบาทสำคัญกับเกาะสีชังในอดีต
และเรือนวัฒนาจัดแสดงนิทรรศการที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สำคัญในเกาะสีชังในสมัยรัชกาลที่ ๕
โดยคุณ ม่อน [2005-04-24 00:11:50] #1191 (9/18)

เรือนเขียวหรือวังพระจุฑาธุชราชฐาน ที่งดงามด้วยด้วยสถาปัตยกรรมไม้สไตล์เรือนขนมปังขิง ปัจจุบันมีอายุกว่า 100 ปี นับตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4

สมัยรัชกาลที่ 5 โปรดเสด็จมาประทับที่เกาะสีชัง และเวลาเสด็จประพาสหัวเมืองชายทะเลตะวันออก ก็ถือเอาเกาะสีชังนี้ เป็นระยะที่พักทอดเรือพระที่นั่งและเป็นที่ตากอากาศ ตลอดจนอยู่ไม่ไกลจากพระนคร และยังมีเจ้านายหลายพระองค์ เสด็จมาทรงรักษาอาการประชวรอยู่เสมอ

ในปี พ.ศ. 2431 สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ (รัชกาลที่6) ทรงพระประชวร ทางแพทย์หลวงได้ถวายการเสนอแนะให้ไปรักษาพระองค์ที่เกาะสีชัง ซึ่งเวลานั้นคงไม่มีพลับพลาที่ประทับ คงมีแต่เรือนเขียว และในปีเดียวกันนั้นสมเด็จพระบรมราชินีก็่ทรงพระประชวร แพทย์ก็ให้แปรพระราชฐานมาประทับที่เกาะสีชังอีกและเสด็จมาอย่างกระทันหัน ต้องประทับที่กระโจมพักใต้ต้นมะขาม

ในปี พ.ศ. 2434 สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าอัษฎางเดชาวุธ ทรงพระประชวรหนักได้เสด็จมาประทับที่เกาะสีชัง ครั้งนี้รัชกาลที่ 5 ได้เสด็จมาด้วยจึงทรงมีพระราชดำริว่า
"ที่เกาะสีชังมีอากาศดีมีภูมิสถานเป็นที่สบาย ควรตั้งพระราชฐานให้มั่นคง เพื่อเป็นที่ประทับในฤดูร้อน เพราะมีความสำคัญด้วยเป็นพระนครที่ สมเด็จพระเจ้าแผ่นดินมาประทับ และเป็นเมืองท่าใหญ่แห่งหนึ่งของกรุงสยาม"
โดยคุณ ม่อน [2005-04-24 00:12:30] #1192 (10/18)

บริเวณระเบียงด้านหลังมีร้านค้าเล็กๆจำหน่ายเครื่องดื่มร้อน/เย็นให้พวกเราแก้กระหาย
โดยคุณ ม่อน [2005-04-24 00:13:17] #1193 (11/18)

ฐานพระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์

พระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์เป็นพระที่นั่งองค์สำคัญในพระจุฑาธุชราชฐาน สร้างด้วยเครื่องไม้สักทองเป็นรูปแปดเหลี่ยม 3 ชั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการประกาศสร้างพระที่นั่งและพระราชฐานพร้อมกัน เมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๔๓๕

พระที่นั่งมันธาตุรัตน์โรจน์ตั้งอยู่ริมหาด ใกล้สะพานอัษฏางค์ พระที่นั่งองค์นี้ได้ดำเนินการก่อสร้างไปจนถึงปี ๒๔๓๖ ยังไม่ทันแล้วเสร็จสมบูรณ์ เพราะเกิดกรณีพิพาทกับฝรั่งเศส กองทหารฝรั่งเศสได้ยกกองเรือมาปิดอ่าวไทย และกองทหารหมวดหนึ่งได้ขึ้นยึดเกาะสีชัง ทำให้ไทยต้องสูญเสียดินแดนไปในปี พ.ศ. ๒๔๓๗ การก่อสร้างจึงหยุดชะงักลง

จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๔๔๓ พระองค์จึงได้เสด็จประพาสหัวเมืองทางชายฝั่งทะเลตะวันออกและได้เสด็จยังเกาะสีชังอีกครั้ง ได้ทอดพระเนตรเห็นพระที่นั่งธาตุรัตนโรจน์รกร้างอยู่จึงโปรดเกล้าฯให้รื้อองค์พระที่นั่งมาสร้าง ณ ข้างอ่างหยกในพระราชวังดุสิต กรุงเทพมหานคร พระราชทานนามใหม่ว่า "พระที่นั่งวิมานเมฆ"
โดยคุณ ม่อน [2005-04-24 00:21:16] #1194 (12/18)

สถานที่น่าสนใจอีกแห่งคือ สะพานอัษฏางค์ ตั้งอยู่บริเวณเดียวกับพระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์ เป็นสะพานไม้ที่ยืนออกไปในทะเล เหมาะสำหรับนั่งรับลมตอนเย็นๆ แต่กว่าจะเคลื่อนพลมาถึงที่แห่งนี้ได้เสื้อผ้าที่ใส่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ
โดยคุณ ม่อน [2005-04-24 00:25:25] #1195 (13/18)

บริเวณชายหาดในสมัยก่อนบริเวณที่ตั้งสะพาน ใครเกิดทันยกมือขึ้น
โดยคุณ ม่อน [2005-04-24 00:30:22] #1196 (14/18)
ก็ว่าทริปนี้รูปน้อยแล้วนะ แต่เอาเข้าจริงรู้สึกเสียดายหากจะตัดทิ้ง ไปอีกกระทู้ดีกว่านะ น่าจะจบลงได้ซะที
โดยคุณ p. [2005-04-24 08:15:27] #1197 (15/18)
รอชมชุดถัดไป...
โดยคุณ Lighthouse [2005-04-24 12:42:01] #1214 (16/18)
บันทึกคนเดินทาง ตอน ที่นี่ไม่ใช่ซอร์สพริกศรีชา แต่เป็นศรีราชารสพริก (ตอนที่ 6)

http://www.tripandtrek.com/webboard5/show.php?Category=&No=101
โดยคุณ debby [2005-04-25 14:09:58] #1230 (17/18)
รูปเยอะดีจริงๆ
โดยคุณ about Mail to about [2007-03-26 17:14:01] #3338 (18/18)
ชอบมาก ๆ ค่ะ สวยทั้งเนื้อหา และภาพประกอบ