กลับหน้าแรก | กระดานข่าวสีเขียว - สีคราม
ค้นหาคำถาม
:: TRIP & TREK :: โลกกว้างของคนเดินทาง :: :: ทริปเดินทาง ::: พาใจไปเที่ยว :: :: TRIP & TREK :: โลกกว้างของคนเดินทาง ::
เชิญตั้งคำถามของคุณได้ที่นี่ครับ
งานประเพณีปอยส่างลอง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประจำปี 2550

                                                           งานประเพณีปอยส่างลอง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประจำปี 2550

     ประเพณีปอยส่างลอง หรือ ประเพณีบรรพชาสามเณรตามแบบไทยใหญ่ เป็นงานสำคัญและยิ่งใหญ่ของชาวแม่ฮ่องสอน (ไทยใหญ่) ด้วยความเลื่อมใสศรัทธาในบวรพุทธศาสนาอย่างมั่นคงถือกันว่าการที่กุลบุตรของตนเองได้อุทิศตนบรรพชาอุปสมบทในพุทธศาสนาและได้มีโอกาสศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าจะได้กุศลอันยิ่งใหญ่ คำว่าปอยส่างลอง เป็นภาษาถิ่นของชาวไทยใหญ่ เป็นคำสมาสกัน ระหว่างคำว่า ปอย หมายถึงการจัดงาน ส่าง หรือเจ้าส่างหมายถึงสามเณร และ ลอง หรืออลองหมายถึงหน่อกษัตริย์ ในความเชื่อของชาวไทยใหญ่นอกเหนือจากบิดา-มารดานำบุตรของตนเองบวชส่างลองด้วยแรงศรัทธาในบวรพุทธศาสนาแล้ว สำหรับผู้ที่ไม่มีบุตรหรือมีบุตรแต่ประสงค์จะเป็นเจ้าภาพบวชหรือรับเป็นภาระอุปถัมภ์บุตรผู้อื่น ที่เรียกกันว่า “พ่อข่าม แม่ข่าม” ชาวไทยใหญ่ก็เชื่อว่าจะได้กุศลอันยิ่งใหญ่เช่นกัน เดิมปอยส่างลองเป็นประเพณีที่จัดเฉพาะในหมู่ญาติมิตรของเจ้าภาพ ปัจจุบันงานประเพณีนี้ได้กลายเป็นเอกลักษณ์ของแม่ฮ่องสอน และจะจัดอย่างยิ่งใหญ่ โดยกำหนดจัดงานประเพณีปอยส่างลองขึ้นระหว่างวันที่ 31 มีนาคม – 2 เมษายน 2550 (รวม 3 วัน) ณ วัดหัวเวียง อย่างยิ่งใหญ่สวยงามโดยคาดว่าจะมีส่างลองมากถึง 80 รูป และยังเป็นกิจกรรมที่ชาวแม่ฮ่องสอนร่วมเฉลิมฉลองปีมหามงคลสมัยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา

      กิจกรรมที่สำคัญ ดังนี้

วันเสาร์ ที่ 31 มีนาคม 2550
     เรียกว่าวันรับส่างลอง ในตอนเช้าเจ้าภาพส่างลอง นำบรรดาเด็กชายไปวัดเพื่อแต่งชุดส่างลองคล้ายเจ้าชายไทยใหญ่ ด้วยการสวมโจงกระเบนสีสด ปล่อยชายด้านหลังยาวจับกลีบ คาดด้วยเข็มขัดนาคหรือเงิน สามเสื้อแขนกระบอกชายโค้งงอน เสื้อปักฉลุลวดลายดอกไม้สีต่างๆ ที่สวยงามอีกอย่างหนึ่งคือส่วนศีรษะใช้ผ้าแพรโพก เกล้ามวยเสียบแซมด้วยดอกไม้ เช่นดอกเอื้องคำ หรือดอกไม้อื่นๆ การแต่งหน้าส่างลองด้วยการเขียนคิ้ว ทาปากสีแดง แต่งตัวเสร็จส่างลองจะสวมถุงเท้าสีขาว ถือเป็นการแต่งตัวอลองเต็มตัว พระสงฆ์ให้ศีลให้พรและอบรมสั่งสอน และส่างลองขอขมาพระสงฆ์ จากนั้นตะแปส่างลองหรือผู้ที่ให้ส่างลองขี่คอ นำไปนมัสการสถานที่ศักสิทธิ์ เช่น ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ศาลเจ้าเมือง เจ้าอาวาส และญาติผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ ในขบวนจะมี ทีคำ หรือ ร่มทองคำกางกั้นบังแดดให้ส่างลอง ทำให้เป็นภาพที่สวยงาม

วันอาทิตย์ ที่ 1 เมษายน 2550
     เรียกว่าวันแห่ครัวหลู่ หรือวันแห่เครื่องไทยทาน มีการแห่ส่างลองกับขบวนเครื่องไทยทานจากวัดหัวเวียงไปตามถนนสายต่าง ๆ มีผู้มีจิตศรัทธามาร่วมขบวนมากมายเพื่อช่วยกันแบก หามอัฐบริขาร เครื่องไทยธรรมทั้งเล็กและใหญ่ ขบวนแห่ประกอบด้วย จีเจ่ (กังสดาล) ม้าเจ้าเมือง ต้นตะเป่ส่าพระพุทธ ต้นตะเป่ส่าพระสงฆ์ ปุ๊กเข้าแตก เทียนเงินเทียนทอง พุ่มเงินพุ่มทอง อูต่องปานต่อง หม้อน้ำต่า อัฎฐบริขาร ดนตรีประโคม และ ขบวนส่างลอง โดยให้ส่างลองขี่คอพี่เลี้ยง หรือ "ตะแปส่างลอง" มีกลดทอง หรือ “ทีคำ” แบบพม่ากั้นแดด ตอนเย็นมีการแสดงและมหรสพสมโภชตามประเพณีไทยใหญ่ ขบวนแห่ส่างลองซึ่งมีขึ้นในช่วงเช้าได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวอย่างมาก เนื่องจากขบวนแห่ส่างลองมีความสวยงามและครึกครื้นเป็นอย่างยิ่ง ส่วนตอนกลางคืนมีงานมหรสพสมโภชตามประเพณีไทยใหญ่ที่วัดหัวเวียง ด้วย

วันจันทร์ ที่ 2 เมษายน 2550
     เรียกว่าวันข่ามส่าง หรือวันหลู่ เป็นวันบรรพชาสามเณรและถวายเครื่องไทยทานแก่พระภิกษุสงฆ์ และเลี้ยงอาหารไทยใหญ่แก่ผู้มาร่วมงานที่วัดหัวเวียง

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

วัดหัวเวียง โทร. 0 5361 2003 เทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน โทร. 0 5361 2016 และ ศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน โทร. 0 5361 2982-3 หรือ www.travelmaehongson.org
โดยคุณ TnT [2007-03-24 20:24:17] Bookmark and Share