กลับหน้าแรก | กระดานข่าวสีเขียว - สีคราม
ค้นหาคำถาม
:: TRIP & TREK :: โลกกว้างของคนเดินทาง :: :: ทริปเดินทาง ::: พาใจไปเที่ยว :: :: TRIP & TREK :: โลกกว้างของคนเดินทาง ::
เชิญตั้งคำถามของคุณได้ที่นี่ครับ
เลียบน้ำของ มองเมืองลาว

เพื่อนเมล์มาทวงต้นฉบับรูปถ่าย ว่าฉันไปเขียนหรือลงรูปที่ไปเที่ยวหลวงพระบางไว้ที่ไหน ให้บอกไปซะดีๆ ....

ฉันไปหลวงพระบาง อาทิตย์นึง คนอื่นเขาไปกัน 5 วัน เวลาฉันกลับมา ก็ต้อง(เสแสร้ง) ทำตัวสงบเสงี่ยมเจียมตัวไว้มั่ง จะให้มานั่งพิมพ์เรื่อง ย่อภาพ เล่นเนทอยู่ได้ไง...
โดยคุณ ฮานาเล [2007-02-04 12:30:03] Bookmark and Share

โดยคุณ ฮานาเล [2007-02-04 12:38:02] #21562 (1/38)

ฝั่งโน้นไงคะที่เราจะไปกัน เขาเรียกด่านห้วยทราย คนละฝั่งโขงกับประเทศไทย ของไทยเรียกด่านเชียงของ

มันก็ใช่แหละว่าฉันไปหลวงพระบาง ซึ่งตอนนี้ใช้เวลาเดินทางไม่นานจากเมืองไทย มีให้เลือกหลายเส้นทาง ทั้งทางบก ทางอากาศและทางเรือ สนนราคาก็คงแตกต่างกันไปตามชนิดพาหนะที่ใช้นั่นแหละ ...ไม่ต้องเดาหรอกน่า..ว่าฉันจะไปทางไหน รับรองตัวเลือก ทางเครื่องบินนี่ตัดออกไปได้ เอาตังค์ไว้กินเฝอดีกว่า...บางกอกแอร์เวย์ไม่มีได้เงินฉันหรอก...(เพราะฉันไม่มีตังค์ให้เขานะซี้) โน่น...ฉันนั่งรถแถไปเชียงของโน่น...จากหมอชิตทุ่มนึง ถึงเชียงของเจ็ดโมงกว่าๆ รถนั่งสบาย ก็ราคาตั้งเจ็ดร้อยกว่าบาทแน่ะ...ไม่สบายได้ไง...
โดยคุณ ฮานาเล Mail to ฮานาเล [2007-02-04 12:42:03] #21563 (2/38)

ท่าเรือไปปากแบง นักท่องเที่ยวต้องเอาพาสปอร์ตไปซื้อ*** (ตั๋ว) ให้เรียบร้อยก่อนขึ้นเรือ

รีบไปเร็วก็เท่านั้นแหละ เพราะด่านที่เชียงของเขาเปิดทำงานกันเวลาราชการแปดโมงเช้า หาข้าวหาปลา กาแฟ กินให้เสร็จสรรพก่อน ไม่ต้องรีบร้อน พอสำนักงาน ตม.เปิดค่อยไปเขียนใบแจ้งออกจากเมืองไทย ให้เขาประทับตรา วันที่ฉันไปเป็นวันพุธ วันธรรมดาเลยไม่ต้องเสียค่าล่วงเวลา แต่ จนท. เค้าเรียกเก็บไปห้าบาท จนป่านนี้ฉันยังไม่รู้เลยว่า ห้าบาทน่ะ มันค่าอะไรหรือจะเป็นค่าเขียนคำร้องใบแจ้งออก...ฉันก็เขียนเองนี่หว่า..ปากกาก็ของฉัน ส่วนเพื่อนอีกสองคนเขาไปประทับตรา เจ้าหน้าที่อีกคน เลยไม่ต้องเสียห้าบาท...ยิ่งดับเบิลงงเข้าไปใหญ่...เจอไปเต็มๆ กับ เจ้าหน้าที่ ตม. ด่านเชียงของ...ห้าบาทก็เอาดีนะ...
โดยคุณ ฮานาเล [2007-02-04 12:44:00] #21564 (3/38)
ผ่านด่านมาเรียบร้อย ต้องนั่งเรือข้ามแม่น้ำโขงมาที่ด่านห้วยทราย ค่าเรือคนละ 20 บาทอีกเช่นเคย คิดค่าเป้ด้วย เป้ใหญ่ๆ เขาคิดค่าสัมภาระ 10 บาท ที่ด่านห้วยทราย ผ่านกระบวนการผ่านแดน และแลกเงินกีบ ทีนี้จะแลกเท่าไหร่ก็แล้วแต่กำลังศรัทธาของตนเอง ใครช่างซื้อหน่อยก็แลกมากหน่อย อัตราแลกเปลี่ยนที่ด่าน 1 บาท/269 กีบ ถ้าจำไม่ผิดนะ ฉันเป็นคนไม่ค่อยได้จด ที่มาเล่าให้ฟังได้เป็นคุ้งเป็นแควเนี่ยมาจากความจำล้วนๆ ...เพราะงั้นมั่นใจในความผิดพลาด ย่อมจะต้องมีมากเป็นธรรมดา เห็นคนอื่นเขาจดกันทุกคืนๆ ขยันกันดีจัง ส่วนฉันน่ะเหรอ...หลังจากเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว พอพลบค่ำ อิ่มได้ที่เป็นนอนค่ะ เอาแรงไว้เที่ยววันรุ่งขึ้นดีกว่า

ที่นี้ก็นั่งรถสามล้อไปที่ท่าเรือไปปากแบง ค่าสามล้อก็เหมือนเคย 20 บาทหรือ 5000 กีบ ต่อคน เพื่อไปซื้อตั๋วเรือ ตรงนี้สำคัญสำหรับคนเดินทาง เมื่อซื้อตั๋วเรือในราคา 95 พันกีบ หรือเงินไทย 365 บาท มีตั๋วเรียบร้อยแล้ว ให้รีบไปจองพื้นที่ในเรือซะ อย่ามัวโอ้เอ้ถ่ายรูปอยู่ ไปแสดงสิทธิ์เอาอะไรวางไว้ก่อนก็ได้ แล้วค่อยเตร็ดเตร่ไปถ่ายรูป มิฉะนั้นจะไม่มีที่นั่ง เพราะต้องนั่งไปทั้งวัน ลักษณะเรือเป็นเรือลำยาวๆ ถามว่าน่ากลัวมั้ย สำหรับเราก็ไม่น่ากลัวนะ คือมีอะไรก็โดดไปไกลๆ ก็แล้วกัน โอกาสล่มหรือไปชนแก่งหินลำน้ำโขง ก็ถือเป็นความซวยไปก็แล้วกัน วันที่ไปนี่เป็นวันพฤหัสบดี แต่นักท่องเที่ยวเยอะมาก มีเรือไปปากแบงตั้งสองลำ ถ้าใครหิวก็ตระเตรียมอาหารน้ำดื่มไปด้วย บนเรือมีของว่างขนมกรุบกรอบเป็นถุง เช่นพวกมันฝรั่ง เบียร์ แต่ราคาก็จะสูงตามไปด้วยซึ่งไม่เหมาะสำหรับฉัน ซึ่งไม่ค่อยจะมีกระตุ้งกระตังค์มากนัก
โดยคุณ ฮานาเล [2007-02-04 12:45:56] #21565 (4/38)

ฉันจะคุยคร่าวๆ ให้ฟังนะว่าไปหลวงพระบางไปยังไง....การไปหลวงพระบางที่นิยมๆ กันอยู่เวลานี้สำหรับคนส่วนมาก คือไปเวียงจันทน์ คือไปข้ามด่านชายแดนที่สะพานมิตรภาพ จ.หนองคาย แล้วต่อรถจากตลาดเช้าเวียงจันทน์ ตอนเย็นๆ ก็จะถึงหลวงพระบาง ทางที่สองก็คือไปเครื่องบิน อันนี้ง่ายมากไม่ต้องเล่าให้ฟังก็ได้มั้ง เพราะไม่น่าตื่นเต้นอะไรเท่าไหร่ (เพราะยังไม่เคยไป ถ้าใครให้ตั๋วฟรี ฉันก็คงหาเรื่องมาตื่นเต้นได้ หรือใครจะลองให้???) อีกทางหนึ่งก็คือทางเชียงของ ที่ฉันจะเล่าให้ฟังนี่แหละ ทางนี้กว่าจะถึงหลวงพระบาง ต้องนั่งเรือล่องแม่น้ำโขงลงมาพักที่ปากแบงคืนหนึ่ง วันรุ่งขึ้นถึงจะล่องเรือต่อถึงหลวงพระบาง ใครที่ไม่ทรหดอดทนต่อความเบื่อหน่ายได้ละก้อ แนะนำให้ไปทางถนนจะดีกว่า แต่ทางเรือก็จะได้เห็นบรรยากาศที่ยังเดิมๆ ของคนลาวได้อย่างชัดเจน ส่วนด่านชายแดนที่เปิดนั้น ไม่ว่าจะเป็นทางน่าน หรือทางนครพนม ฯลฯ ไปได้แต่ไม่สะดวก และเสี่ยงเอาหน่อย เพราะบางแห่ง ทางด่านไทยเปิดเป็นด่านสากล แต่พอข้ามไป ลาวเขากลับไม่ให้เข้าซะนี่....อย่างนี้ไปทางชัวร์ๆ ดีกว่า ไม่ต้องลุ้น รถราที่จะต่อไปยังเมืองอื่นในลาวก็มาตรฐานกว่า เอาเวลาไปลุ้นเรื่องอื่นดีกว่าเยอะเลย...เอาล่ะคราวนี้กลับมาโม้ต่อดีกว่า
โดยคุณ ฮานาเล [2007-02-04 12:47:42] #21566 (5/38)
อ๊ะจ๊าก....ทำรูปผิดอ่ะ webmaster ช่วยแก้ไขภาพให้ด้วยค่ะ
โดยคุณ ฮานาเล [2007-02-04 12:48:58] #21567 (6/38)

เบาลองนั่งส่วนตั๊วส่วนตัว

พอได้เวลาเพลก่ายๆ มาหน่อยคือ 11โมงกว่าๆ เรือก็ออกเดินทาง คราวนี้ก็นั่งดูวิวลำน้ำไปเรื่อยๆ ใครมีกิจกรรมอะไรก็งัดออกมาทำ ใครใคร่ดื่มเบียร์ลาวก็ว่ากันไป ใครอ่านหนังสือก็อ่าน ใครใคร่นอนก็นอน แต่ว่าจะนอนลำบากสักนิดเนื่องจากเก้าอี้เป็นไม้แข็งๆ พนักตรง มีเบาะบางๆ รองนั่ง ฉันเห็นนักท่องเที่ยวบางคน หนีบเบาะรองนั่งคล้ายๆ หมอนอิงขึ้นเรือมาด้วย ก็ให้อัศจรรย์ใจว่า แหม...ข้อมูลของเขาแน่นปั๋งจริงๆ ขนาดเตรียมเบาะมาเป็นของตัวเองซะด้วย
โดยคุณ ฮานาเล [2007-02-04 12:49:56] #21568 (7/38)

ผู้โดยสารทั้งลำเรือน่ะ 95 เปอร์เซ็นต์เป็นนักท่องเที่ยว เมื่อเห็นเช่นนี้จงอย่าเข้าใจผิดว่า เป็นเรือสำหรับการท่องเที่ยวคือแล่นจากห้วยทรายไปปากแบงรวดเดียวไม่มีแวะที่ไหน หาเป็นเช่นนั้นไม่ เรือลำนี้เป็นเรือเมล์....เพราะฉะนั้น...คนขับเรือ จะแวะจอดส่งคน รับคนและขนของไปตลอดลำน้ำ สอบถามดูแล้วว่าเป็นกฎกติกามารยาท ของเรือโดยสาร ที่เรียกว่า ๅslow boatจะต้องรับส่งชาวบ้านไปด้วย จะมาคิดว่ารับนักท่องเที่ยวเต็มลำเรือแล้ว ไม่รับชาวบ้าน อย่างนี้ไม่ได้ เพราะมีชาวบ้านตั้งบ้านเรือนอยู่ริมลำน้ำ มีท่าเรือเป็นหาดทรายขาวละเอียด ถ้าต้องการความรวดเร็วเขามีเรือ speed boat บริการ ลักษณะเรือเป็นเรือหางยาวตัดครึ่งลำ แถวบ้านฉันเรียกเรือ สแต็ป มีเครื่องยนต์ติดก้านใบพัด แล่นเร็วมาก คนนั่งต้องสวมหมวกกันน๊อคด้วยเท่ห์ซะ... เห็นว่าราคาสูงกว่า แต่ไม่ต้องแวะที่ปากแบงคือ จากห้วยทรายไปหลวงพระบางเลยทีเดียว
โดยคุณ ฮานาเล [2007-02-04 12:51:49] #21569 (8/38)

กิจกรรมยามนั่งเรือ...ว่ากันไปตามถนัด

เย็นย่ำได้ที่ประมาณหกโมงเย็น ฉันนั่งเบื่อๆ ดูวิวข้างทางชักจะเซ็งขึ้นมานิดๆ แล้ว ฝรั่งข้างหน้าฉันดูท่าจะเซ็งหนักกว่า เมื่อน้องเอ๊ะ ถามผู้ช่วยกัปตัน (เรียกให้โก้ไปงั้นแหละ) ว่าอีกนานมั้ยกว่าจะถึงปากแบง สาวฝรั่งก็ถามฉันหมับเลยว่า เมื่อกี้นี้สาวเจ้าพูดว่าไง...พอได้คำตอบว่าอีกประมาณ 30 นาทีจะถึงปากแบง ...ท่าทางเธอโล่งอกพิลึก และเมื่อฉันชี้ให้เธอเห็นแสงไฟ ท่าทางจะเป็นแหล่งชุมชนใหญ่ๆ และบอกเธอว่า ...ฉันว่านั่นแหละคือปากแบง เธอหัวเราะร่า...บอกว่า เธอก็หวังว่าอย่างนั้นเหมือนกัน ส่วนฉันนะเหรอ....ตอบอย่างไม่โกหกเลยว่า...ดีใจเว้ย..ถึงซะที....เบื่อแล้วเว้ย.....
โดยคุณ ฮานาล [2007-02-04 12:57:25] #21570 (9/38)

สภาพเมืองปากแบง

เราต่อรองราคาที่พักกันสุดฤทธิ์ได้มาในราคา 300 บาท นอน 4 คน มีน้ำอุ่นห้องน้ำในตัว ค่าอาหารค่อนข้างแพง อาจจะเป็นราคาสำหรับนักท่องเที่ยว กระแสไฟฟ้าที่ปากแบงส่วนมากเขาปั่นกระแสไฟฟ้าใช้กันเอง หรืออย่างไรไม่แน่ใจ แต่จะทำอะไรก็รีบๆ ทำเสีย เพราะสี่ทุ่มเขาจะปิดไฟ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรันนักเดินทางคือเทียนไข และไฟฉาย
โดยคุณ ฮานาเล [2007-02-04 12:59:07] #21571 (10/38)

เมืองปากแบง มีตึกสร้างใหม่เป็นที่พักดูหรูหราเชียว
ตอนเช้าต้องรีบตื่นไปดูบรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้น นั่งจิบกาแฟสบายๆ ริมน้ำโขง เตรียมเสบียง สำหรับมื้อกลางวัน วันนี้ต้องเดินทางต่ออีก ทางเรืออีกเช่นเคย ต้องไปเข้าคิวลงชื่อซื้อตั๋วเรือกันใหม่อีกรอบ คือ จากปากแบงถึงหลวงพระบาง ใครจะซื้อตั๋วจากห้วยทราย – หลวงพระบางเลยก็ได้ หรือจะซื้อครึ่งทางก็ได้ ส่วนราคาจะแตกต่างกันเท่าไหร่นั้น ไม่ทราบเหมือนกัน ถ้าจะถามว่า นั่งเรือมาวันหนึ่งเบื่อแล้ว อยากไปหลวงพระบาง ทางรถ จากปากแบงได้หรือไม่ คำตอบคือได้ค่ะ...แต่ต้องนั่งรถไปลงอุดมไซ และต่อรถจากอุดมไซไปหลวงพระบางอีกทอดหนึ่ง
โดยคุณ ฮานาเล [2007-02-04 13:01:48] #21572 (11/38)

ชีวิตประจำวันของชาวบ้าน ริมน้ำโขง

ข้อเสียของฉันอย่างหนึ่งคือตอนกลางวัน ฉันนั่งเฉยๆ ไม่ค่อยเป็น มันจะรำคาญ หนักเข้าเมื่อไม่รู้จะทำอะไร ก็จะเริ่มง่วง วันนี้เรือวิ่งฉิวๆ ไปเรื่อย ลมเย็นๆ ก็เป็นอันหลับ คราวนี้หอบถุงนอนกับผ้ายางไปนอนหลับท้ายเรือเป็นเรื่องเป็นราวไปเลย ตื่นขึ้นมาเพราะชาวบ้านเขาตั้งสำรับกินข้าวกัน มีฝรั่งมานั่งปั้นจิ้มเนียนๆ อยู่คนหนึ่งกับพี่สาวชาวลาว 3-4 คน ...อ่ะนะ..ถือเป็นนิมิตหมายที่จะได้ร่วมสำรับกับชาวลาวชาวบ้านขนานแท้ ก็เลยไปหอบข้าวเหนียวหมูทอดมาวางร่วมวงกับเขา ...แต่ฉันเนียนกินกับข้าวของเค้าไปตั้งเยอะ ฉันว่าอาหารเค้าไม่เหมือนของคนอีสานบ้านเรา น่าจะไปคล้ายกับของทางเหนือมากกว่า มีหน่อไม้ผัดวุ้นเส้น ยำผักอะไรก็ไม่รู้อร่อยดี มีผักดอง ไก่ย่าง และไค.....ไค...เป็นอาหารยอดฮิตของหลวงพระบาง ทำจากสาหร่ายน้ำจืด เอาไว้จะเล่าให้ฟังทีหลังดีกว่า
โดยคุณ ฮานาเล [2007-02-04 13:04:42] #21573 (12/38)

อุปกรณ์ช้อนปลาตามแก่งหินกลางลำน้ำของชาวลาว คล้ายสวิงบ้านเรา แต่ปากสวิงไม่กลมๆ เหมือนบ้านเรา กลับมีรูปร่างคล้ายตะเกียง
โดยคุณ ฮานาเล [2007-02-04 13:06:49] #21574 (13/38)
อ้าว...พิมพ์ผิดอีก คล้ายตะเกียบค่ะ..ไม่ใช่ตะเกียง ตรงด้านกว้างของตะเกียบจะมีอวนติดอยู่ สำหรับช้อนปลา ดูท่าทางจะหนักไม่ใช่เล่น
โดยคุณ ฮานาเล [2007-02-04 13:08:39] #21575 (14/38)

เรือที่ชาวบ้านเขาใช้พายไปมาค่ะ....เด็กๆ คงว่ายน้ำเป็นกันทุกคน เพราะชีวิตผูกพันกับสายน้ำ
โดยคุณ ฮานาเล [2007-02-04 13:10:35] #21576 (15/38)

ซุงลำใหญ่ๆ ...สินค้าส่งออกของลาว...อีกไม่นานลาวคงจะมีเขาหัวโล้นเหมือนเรามั้ง
โดยคุณ ฮานาเล [2007-02-04 13:51:06] #21577 (16/38)

ถึงหลวงพระบางซะที

ฉันถึงหลวงพระบางเวลาประมาณห้าโมงเย็น ยังสว่างและมีเวลาว่างมากพอจะเดินหาที่พัก ไปได้ที่พักแถวๆ ริมแม่น้ำคาน บรรยากาศเงียบสงบดี ส่วนที่พักในเมืองวันนี้หายาก ส่วนมากจะบอกว่าเต็ม หรือไม่อยากรับนักท่องเที่ยวชาวไทยก็ไม่ทราบได้ แต่เราก็ไม่สนใจเท่าไหร่ ไม่รับเราก็ไปหาที่อื่น จะที่พักในเมืองหรือริมน้ำคาน ความสะดวกสบายก็ไม่ต่างกันมากนัก ด้วยว่าเมืองหลวงพระบางไม่ได้ใหญ่โต ถึงจะพักนอกเมืองคือริมน้ำคาน ก็เดินมาเที่ยวในเมือง เที่ยวตลาดมืด ตลาดเช้าหรือตักบาตรได้สบายๆ

ตลาดที่น่าสนใจของหลวงพระบางอาจมีมากกว่าที่ฉันจะเล่าให้ฟัง อันนี้ฉันเล่าจากที่ฉันไปมาก็แล้วกัน
โดยคุณ ฮานาเล [2007-02-04 13:52:33] #21578 (17/38)

ตลาดมืดของหลวงพระบาง ออกจะอายๆ ฝีมือ..ทนดูหน่อยก็แล้วกัน มันถ่ายได้เท่านี้อ่ะ

ตลาดมืดหลวงพระบาง.....ชาวบ้านเขาเรียกตลาดมืดแต่อย่าไปคิดว่าเป็นตลาดมืดแบบค้าสิ่งของผิดกฎหมายหรือว่า เป็นสินค้าที่ขโมยมาขายเป็นอันขาด เพราะตลาดมืดที่นี่คือ night market หรือ walking street หรือถนนคนเดินของบ้านเรา เหตุที่ว่า พอกลางคืนเขาจะปิดถนนศรีสว่างวงศ์ซึ่งเป็นถนนสายหลักในเมืองหลวงพระบาง ส่วนหนึ่ง แล้วให้ชาวบ้านนำสินค้ามาขาย ส่วนมากเป็นผลิตภัณฑ์จากผ้าฝ้ายปักลวดลาย ส่วนมากทำโดยชาวม้ง เช่นพวกกระเป๋าใบเล็กไปจนถึงใบใหญ่มากๆ ปลอกหมอน ผ้าคลุมเตียง เสื้อ กางเกง รองจากสินค้าผ้าก็จะเป็นพวกเครื่องเงิน ซึ่งเขาบอกว่าหลวงพระบาง เครื่องเงินราคาถูก โคมไฟทำจากกระดาษสาสวยๆ สร้างสีสันในเวลาค่ำคืนให้นักช้อปได้ดีนักแล ใครชอบถ่ายภาพกลางคืน มุมตลาดมืดนี่ไม่ควรพลาด ฉันเคยเห็นเพื่อนถ่ายมา แสงไฟเป็นแฉกๆ รูปดาว สวยงามสุดๆ กลางคืนเดินดูตลาดมืด เช้าตรู่ก็ไปตลาดเช้ากัน....
โดยคุณ ฮานาเล [2007-02-04 13:53:38] #21579 (18/38)

ตลาดเช้าของหลวงพระบาง

ตลาดเช้าหลวงพระบาง....เขาวางขายกันริมถนนบนทางเดินเท้า มีผักสดๆ ผลไม้ และอะไรแปลกๆ ใครที่ใจอ่อนๆ หน่อยก็ต้องทำใจ ที่จะต้องเห็นซากสัตว์ป่า หรือไม่ก็ตัวมันเป็นๆ ถูกนำมาขายเพื่อประกอบอาหาร วิถีชีวิตของเขาอาจเป็นอย่างนั้น อย่าไปตัดสินด้วยความรู้สึกของเราจะดีกว่า...สำรวจข้าวของ และอาหารแปลกๆ ที่ปรุงสำเร็จก็มีขาย เช่น ข้าวเหนียว ไส้อั่ว แกงสำเร็จรูปของชาวบ้านร้านถิ่น ซื้อหามากินก็อร่อยดีเหมือนกัน ใครไปเที่ยวแบบนี้แล้วตั้งหน้าตั้งตาแต่จะกินอาหารตามร้านอาหารที่ขายให้กับฝรั่งนักท่องเที่ยวแล้ว เราว่าอาหารมันงั้นๆ ไม่ได้รสชาติของคนหลวงพระบาง เปรียบเทียบเหมือนกันเวลาเรากินแกงเขียวหวานของบ้านเรา แต่เราดันไปสั่งตามเกาะที่ฝรั่งอยู่เยอะๆ นั่นแหละ เห็นหน้าตามันแล้วไม่น่าเป็นแกงเขียวหวานตรงไหน ออกแนว ต้มกะทิไก่ใส่เครื่องแกง มีแครอท ถั่วลันเตาด้วย..ประมาณอย่างนี้...หากินเอาตามตลาดสดดีกว่า..แต่เน้นว่ากระเพาะของท่านควรจะมีความทนทานได้ระดับหนึ่ง ไม่ใช่ว่าเขาทำไม่สะอาดนะ....เขาทำสะอาดแต่ธาตุของแต่ละคนมันไม่เท่ากัน ไปเที่ยวแล้วท้องเสียปู๊ดป๊าดมันไม่ค่อยดีกับการเดินทาง
โดยคุณ ฮานาเล [2007-02-04 13:54:22] #21580 (19/38)

สุดตลาดเช้าจะมีร้านกาแฟยอดนิยมที่คนในเนทหรือคนไทยส่วนใหญ่ที่หาข้อมูลในเนท ต้องไปลองชิม ก็คือร้านกาแฟประชานิยม หาไม่ยาก กาแฟก็อร่อยดี เป็นกาแฟโบราณ เห็นว่าใช้กาแฟมีชื่อเสียงของลาว คือกาแฟปากซอง จากที่ราบสูงโบโลเวน ราคาไม่แพง ใครที่ไม่ชอบหวานต้องบอกให้คนชงใส่นมน้อยๆ หน่อย เพราะถ้ามาตรฐานกาแฟลาวแล้วละก้อ...หวานแสบทรวงดีแท้.....
โดยคุณ ฮานาเล [2007-02-04 14:18:45] #21581 (20/38)

ไม่มีรูปตลาดจีนให้ดู ไม่ได้ถ่ายมา งั้นเอารูปดอกไม้สวยๆ ที่ตลาดเช้าไปดูแทนก็แล้วกัน ...ใช้สำหรับบูชาพระ ดอกอะไรไม่ทราบ แต่ไม่ใช่กล้วยไม้ ที่เห็นเป็นใบของกล้วยไม้ เนื่องจากเขานำมาเข้าช่อดอกค่ะ

ตลาดต่อไปคือตลาดจีน....ต้องขี่จักรยานออกไปนอกเมือง ประมาณ 3 กิโล ....เป็นตลาดขายของสัพเพเหระต่างๆ คล้ายๆ ตลาดที่ท่าเสด็จ จ.หนองคาย แต่ของน้อยกว่ามากๆ และร้านดูเก่าๆ มีสินค้าจากเมืองจีนมากจำหน่าย เช่นพวกเสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องยนต์ รองเท้า คนขายบางคนพูดได้แต่ภาษาจีน ก็แปลกๆ ดี

โดยคุณ Deg gai ban [2007-02-04 14:23:45] #21582 (21/38)
So good ....Kid toung jung ...
โดยคุณ ฮานาเล [2007-02-04 14:25:09] #21583 (22/38)

สาหร่ายน้ำจืดที่เขาเรียกว่า " ไค" เป็นอาหารนำเสนอของหลวงพระบาง เค้าจะเก็บจากลำน้ำแล้วนำไปประกอบอาหาร ที่เห็นอยู่โดยไม่ได้ลองชิม เป็นแบบน้ำๆ แต่ที่ลองชิมแล้วคือ

"หมกไค" ใช้ไคสดๆ มาผสมกับเครื่องเทศแล้วห่อใบตองนึ่งแบบห่อหมกบ้านเรา รสชาติเค็มๆ อร่อยดี แต่ไม่คุ้นลิ้น มีกลิ่นดินนิดหน่อย

อีกตำรับหนึ่ง คือ "ไคแผ่น" เค้าจะนำไคที่ทำความสะอาดดีแล้วมาปรุงรส ใส่งา ใส่มะเขือเทศฝานบางๆ แล้วนำไปตากแดด เก็บไว้กินได้นานๆ วิธีการกินคือนำมาทอดในน้ำมันร้อนๆ แต่ไฟไม่แรง (อันนี้ยังไม่ได้ลองทอด ไม่รู้ทอดเองจะกินได้หรือเปล่า อีกอย่างคือนำไคไปทำให้แหลกแล้ว ใส่เป็นไส้ หุ้มด้วยข้าวเหนียว...อันนี้ก็ลองแล้ว แซ่บดี
โดยคุณ ฮานาเล [2007-02-04 14:28:11] #21584 (23/38)

วัดเชียงทอง

ที่นี้เรามาดูวิธีการเที่ยวในหลวงพระบางกันมั่งดีกว่า....บางทีหาข้อมูลแล้วก็ยังไม่รู้จะวางแผนการเที่ยวยังไง ของฉันอยู่หลวงพระบางสามคืน ....คืนแรกหาที่พักแล้วเที่ยวอะไรไม่ได้นอกจากตลาดมืด วันที่สอง วางแผนเที่ยววัด ตอนเช้าใครใคร่ไปตักบาตรข้าวเหนียว อันเป็นสิ่งที่เขาว่าขาดไม่ได้เมื่อไปหลวงพระบาง ....บางคนอยู่เมืองไทย ไม่เคยใส่หรือนานๆ ใส่สักที ไปหลวงพระบางก็ไปใส่เป็นสิริมงคลกับตนเองไม่เสียหายตรงไหน ใส่บาตรเสร็จก็ไปเดินตลาดเช้า กินกาแฟ ขนมนมเนย ขนมปังฝรั่งเศส หรือใครจะซื้อข้าวเหนียว ไส้อั่ว หมูปิ้ง ไก่ปิ้ง กระยอทอด ไปกินด้วย ก็อร่อยดี อิ่มท้องดีแล้วก็แวะเช่าจักรยานคนละคัน เพื่อความรวดเร็วและไม่เหนื่อยมาก เที่ยวตามวัดต่างๆ ของหลวงพระบาง เลือกๆ เอาวัดดังๆ หน่อย ที่ทัวร์ส่วนมากเขาแวะกัน เช่นวัดเชียงทอง พระธาตุหมากโม วัดวิชุน ค่าเที่ยวชมวัด วัดละ 40 บาท หรือ 10 พันกีบ เข้าหลายวัดก็เสียตังค์มากหน่อย มีข้อสังเกตนิดหน่อย ...อุโบสถของวัดส่วนมากจะหันหน้าไปทางทิศตะวันออก เพราะฉะนั้น ตามความคิดเราควรจะไปเที่ยววัดตั้งแต่เช้าเพื่อจะถ่ายรูป ไปตอนบ่ายถ่ายหน้าโบสถ์จะย้อนแสงตลอด นอกจากวัดยังมีพระราชวัง พิพิธภัณฑ์ หอพระบาง บ่ายๆ ค่อยขี่จักรยานไปเที่ยวตลาดจีน เก็บพระธาตุพูสีไว้ตอนเย็น เพราะไฮไลท์ของที่นี่คือดูพระอาทิตย์ตก
โดยคุณ ฮานาเล [2007-02-04 14:30:14] #21585 (24/38)

กระเป๋าลายสวยๆ

ตอนค่ำหลังจากอิ่มอร่อยแล้วเดินย่อยอาหารที่ตลาดมืด แล้วกลับไปหลับสบายเนื่องจากได้เสียตังค์แลกกับการได้เป็นเจ้าของกระเป๋าสวยๆ ...รับรอง...ผู้หญิงต้องเสียเงินกับกระเป๋ากัน ไม่ใบเล็กก็ใบใหญ่ เอาไว้ใส่เครื่องสำอางก็น่ารักดี กิ๊บเก๋กับลายสวยๆ ศิลปะหลวงพระบาง
โดยคุณ ฮานาเล [2007-02-04 14:34:56] #21586 (25/38)

ภาพที่ผนังของวัดเชียงทอง ทำจากกระจกสีตัดปะ เป็นเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตประจำวัน รวมถึงประเพณีและนิทานโบราณของชาวหลวงพระบาง ซึ่งถ่ายทอดออกมาเป็นภาพลายปักกระเป๋า ผ้าคลุมเตียง บางรายปักละเอียดสวยงามมาก เป็นเรื่องราวต่างๆ กันไปถามราคาผ้าคลุมเตียง สี่พันบาท....ถ้ามีเงินเยอะๆ จะซื้อ
โดยคุณ ฮานาเล [2007-02-04 14:35:59] #21587 (26/38)

โดยคุณ ฮานาเล [2007-02-04 14:37:26] #21588 (27/38)

โดยคุณ ฮานาเล [2007-02-04 14:40:28] #21589 (28/38)

ตาดกวางสี ตอนฉันไปน้ำไม่เยอะ แต่ก็ดูสวยดี มีทางเดินขึ้นไปจนถึงยอดน้ำตก เป็นลำธารกว้างๆ ไหลลงหน้าผา ข้างบนเป็นที่ราบ ไม่กล้าเดินนอกเส้นทาง เสียวๆ ...บ้านเขายังอุดมสมบูรณ์อยู่ เผื่อจะสัตว์อันไม่พึงประสงค์

วันที่สามวางแผนไปเที่ยวรอบนอกของหลวงพระบาง คือถ้ำติ่งและตาดกวางสี ตาดแส้ ฉันไปแต่ตาดกวางสีอย่างเดียวเหมารถสี่ล้อเล็กๆ คล้ายรถกระป้อบ้างเราไปในราคา 500 บาท ขากลับให้เขาแวะหมู่บ้านม้ง ที่ปักกระเป๋าสวยๆ ....หลวงพระบางเป็นเมืองท่องเที่ยวเพราะงั้นการหารถไปนั้นไม่ยากมีหลายแบบให้เลือก เราเดินเที่ยวตามวัด หรือเดินไปกินกาแฟ ก็จะมีเจ้าของรถมาทาบทาม ไม่ต้องรีบร้อนตกลงกับใคร สอบถามราคา อัธยาศัยไมตรีคนขับแล้วค่อยตัดสินใจ มีทั้งให้เหมารถตู้ รถกระป้อ หรือไปแชร์กับคนอื่นคิดเป็นค่าหัวต่อคนกี่เหรียญก็ว่ากันไป ตลาดเป็นของผู้บริโภค ใจเย็นๆ ไม่ต้องกลัวว่าไม่มีรถไปเที่ยว ไม่ต้องมามีคำถามว่าไปคนเดียว สองคนจะหารถยากมั้ย จะไปแชร์กับใคร...ตอนเย็นๆ ก็เช่นเคยมาจบลงที่ตลาดมืด โอกาสสุดท้ายของนักช้อป ใครที่เหล่สินค้าไว้ตั้งแต่สองคืนก่อน คืนนี้ไม่ซื้อก็ต้องมาคราวหน้าแล้วแหละ เพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางแต่เช้า

โดยคุณ ฮานาเล [2007-02-04 14:43:33] #21590 (29/38)

ตักบาตรข้าวเหนียวของหลวงพระบาง

วันรุ่งขึ้นฉันจากหลางพระบางด้วย express bus ซื้อตั๋วที่สถานีขนส่งของหลวงพระบางนั่นแหละ ออกประมาณแปดโมงครึ่ง ตอนเช้าใครที่พลาดถ่ายรูป พลาดใส่บาตรข้าวเหนียว ก็ไปปฏิบัติซะ ถือเป็นการอำลาหลวงพระบางไปในตัว รถจากหลวงพระบางไปวังเวียงหรือเวียงจันทน์ มีเที่ยวรถและราคาบอกอยู่ที่สถานีขนส่ง เส้นทางไปสถานีขนส่งก็ทางเดียวกับที่ไปตลาดจีนนั่นแหละ
โดยคุณ ฮานาเล [2007-02-04 14:57:36] #21591 (30/38)

แม่น้ำซอง...วังเวียง

วันรุ่งขึ้นฉันจากหลางพระบางด้วย express bus ซื้อตั๋วที่สถานีขนส่งของหลวงพระบางนั่นแหละ ออกประมาณแปดโมงครึ่ง ตอนเช้าใครที่พลาดถ่ายรูป พลาดใส่บาตรข้าวเหนียว ก็ไปปฏิบัติซะ ถือเป็นการอำลาหลวงพระบางไปในตัว รถจากหลวงพระบางไปวังเวียงหรือเวียงจันทน์ มีเที่ยวรถและราคาบอกอยู่ที่สถานีขนส่ง เส้นทางไปสถานีขนส่งก็ทางเดียวกับที่ไปตลาดจีนนั่นแหละ

เส้นทางของฉันจะไปแค่วังเวียง และค้างที่วังเวียงสองคืน รถวิ่งจากหลวงพระบางใช้เวลา ประมาณ 6 ชม. รถ express bus ไม่แวะจอดรับส่งคนไปทั่วเส้นทางเหมือนรถธรรมดา เป็นรถบัสขนาดประมาณ 40 ที่นั่งแต่ตอนที่ฉันมานี่ มีคนไม่ถึงยี่สิบคนดี มีจอดแวะให้รับประทานอาหารกลางวันด้วย ถึงวังเวียงประมาณบ่ายสองโมงครึ่ง
โดยคุณ ฮานาเล [2007-02-04 15:02:34] #21592 (31/38)

โมลินา เกสเฮ้าส์

ที่วังเวียงเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ริมน้ำซองมีตึกสองชั้นขึ้นแทนกระท่อมธรรมดา แน่นอนราคาห้องก็จะต้องสูงตามไปด้วย แต่ฉันไม่ได้เข้าไปถาม พิกัดบ้านพักเราอยู่ริมน้ำซองนั่นแหละ แต่คราวนี้ต้องข้ามสะพานไม้ไผ่ ไปยังอีกฝากหนึ่ง ไปยัง other side Guest house แต่ที่พักเต็ม เดินเลยไปอีก ได้ที่พัก Molina Guest house เจ้าของฝ่ายชายชื่อพี่เพชร พี่ผู้หญิงชื่อกิ่งแก้ว.....
โดยคุณ ฮานาเล [2007-02-04 15:15:59] #21593 (32/38)

ฉันอยู่ที่วังเวียงโดยไม่ไปเที่ยวที่ไหนเลย เพราะไม่อยากไป จากหลวงพระบาง จนถึงวังเวียงอากาศยังคงเย็นจัด กิจกรรมที่ทำคือเดินเล่น ดูอะไรไปเรื่อยเปื่อย อาหารที่วังเวียงแพงมาก และหาอาหารธรรมดาอย่างที่ชาวบ้านเค้ากินกันยากมากด้วยเช่นกัน มื้อเย็นของวันหนึ่งเราทำอาหารรับประทานกันเองที่บ้านพี่เพชร ซึ่งออกปากอนุญาตให้เราไปเก็บผักที่เขาปลูกไว้ มาผัดหรือทำอะไรกินก็ได้ รวมถึงวัตถุดิบที่บ้านเขาปลูกไว้ ฉันจึงซื้อแต่ไข่ไก่ กระเทียม หัวหอม และเครื่องปรุงอีกนิดหน่อย พี่เพชรและครอบครัว มีความเป็นอยู่อย่างพอเพียง เขาปลูกเกสเฮ้าส์บนที่ดินของตัวเอง ไม่กี่หลัง ตามกำลังที่ตัวเองจะทำได้ ไม่ต้องไป***้ยืมเงินธนาคารมาเสียค่าดอกเบี้ย ปลูกผัก ปลูกข้าวโพด เลี้ยงปลา ไว้กินเอง....แม้วังเวียงจะเจริญขึ้นมากกว่าเดิม แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ยังมีวิถีชีวิตแบบธรรมดาๆ ตอนเย็นๆ ยังมีภาพชาวบ้านขนเสื้อผ้ามาซักและอาบน้ำให้ลูกที่ลำน้ำซอง

พี่กิ่งแก้วบอกว่า....ชาวลาวมีปรัชญาการใช้ชีวิตเหมือนอย่างที่ในหลวงของเราสอน “เศรษฐกิจพอเพียง” เพียงแต่คนลาวใช้คำว่า “ช่วยเหลือตนเอง พึ่งพาตนเองและทำชุมชนให้เข้มแข็ง” รัฐบาลจะช่วยเหลือเฉพาะเรื่องใหญ่ๆ เท่านั้น เช่น เรื่องการศึกษา การรักษาพยาบาล ซึ่งเป็นสวัสดิการของรัฐ

ใครไปวังเวียบแวะพักที่โมลินา เกสเฮ้าส์ก็ได้ เป็นกระท่อมขนาด 4*4 เมตร กว้างขวาง ราคา 200 บาท/คืน มีน้ำอุ่นและห้องน้ำในตัว สะอาดและปลอดภัย
โดยคุณ ฮานาเล [2007-02-04 15:22:30] #21594 (33/38)
สปป.ลาวเป็นประเทศที่ไปเที่ยวง่ายที่สุดในหมู่บ้านใกล้เรือนเคียงของไทย วัฒนธรรมขนมธรรมเนียมประเพณียังดีงาม แม้บางสิ่งบางอย่างจะเริ่มเปลี่ยนไปตามวัฏจักร แต่ฉันก็ยังอิ่มเอมกับบรรยากาศของลาวอยู่เสมอ ไม่ว่าเราจะเดินทางไปที่ไหน ขอให้เคารพสถานที่ และผู้คน เหมือนเป็นของๆ เราเอง

เช้าวันสุดท้ายในเมืองลาว ...ฉันยังยกมือไหว้ลาพี่เพชรและพี่กิ่งแก้ว ตามธรรมเนียมและความรู้สึกที่ดีๆ ที่มีให้แก่กัน และหวังว่าสักวัน ฉันคงได้กลับไปเยี่ยมลาวอีกครั้ง.....ด้วยรัก...ฮานาเล
โดยคุณ อสุสิงค์ Mail to อสุสิงค์ [2007-02-05 10:58:20] #21605 (34/38)
ครับ..................................
โดยคุณ Joyful [2007-02-05 11:07:00] #21606 (35/38)
ดอกไม้สีส้ม ๆ #21581 มันคือดอกทองกวาวค่ะ

ตอนนี้น้ำโขงใสแล้วเนาะ สวยจัง อยากไปคอนพะเพ็งหง่ะ ขอบคุณภาพกับบันทึกการเดินทางดี ๆ ที่มีประโยชน์ต่อคนเดินทางค่ะ
โดยคุณ debby [2007-02-05 15:53:53] #21609 (36/38)
อิอิ เมื่อวานเพิ่งจะดูรายการที่นี่หมอชิต ตอนที่ไปเก็บสาหร่ายพอดีเลย
โดยคุณ Ducky [2007-02-06 07:52:14] #21618 (37/38)
ไม่เคยไปจากทางเชียงของเลยคะ คงต้องมีสักวันที่ได้ไปทางนี้คะ ขอบคุณนะคะสำหรับเรื่องราว ชอบปรัญญาของลาวจังเลยคะ
โดยคุณ แม่ลูก 2 [2007-02-06 10:41:02] #21625 (38/38)
อยากไปจังเลย อิจฉาคนเขียนง่ะ