กลับหน้าแรก | กระดานข่าวสีเขียว - สีคราม
ค้นหาคำถาม
:: TRIP & TREK :: โลกกว้างของคนเดินทาง :: :: ทริปเดินทาง ::: พาใจไปเที่ยว :: :: TRIP & TREK :: โลกกว้างของคนเดินทาง ::
เชิญตั้งคำถามของคุณได้ที่นี่ครับ
บั้งไฟพญานาค??????
สงสัยมานานแล้วค่ะว่าพญานาคมีจริงหรือเปล่า แต่พระชื่อดัง ๆ หลายท่าน อาจารย์ฝั้น หรือ ท่านอื่น ๆ ท่านว่าพญานาคมีจริง ๆ ส่วนคนรุ่นเราก็ถูกพร่ำสอนให้เชื่อวิทยาศาสตร์ แถมเรื่องนี้ยังสามารถอธิบายได้เชิงวิทยาศาสตร์อีก ก็เลยทำให้เอนมาข้างวิทยาศาสตร์ ว่า บั้งไฟพญานาคเป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติ

แล้วเพื่อน ๆ ละคะ คิดยังไงกันกับเรื่องนี้บ้าง อ้อ.. เดี๋ยวจะลองหาข้อมูลของจุดที่สามารถชมบั้งไฟพญานาคมาให้ด้วยค่ะ
โดยคุณ Joyful Mail to Joyful [2002-10-01 08:48:30] Bookmark and Share

โดยคุณ ด๊อกแด๊ก [2002-10-02 15:01:45] #7 (1/3)
อันนี้แล้วแต่จะคิด แต่ผมคงต้องอิงวิทยาศาสตร์อยู่ แต่ว่าก้อยังพิสูจน์กันไม่ได้ซักกะทีเป็นที่ถกเถียงกันต่อไปอยู่เรื่อยแหละครับ
พอดีไปงานแต่งเพื่อนที่ปากคาดมาเมื่อต้นปี เพื่อนเคยเล่าให้ฟังว่าทางกิ่งอำเภอรัตนวาปี กะโพนพิสัย จะเห็นได้บั้งไฟพญานาคได้ง่ายนะ อันนี้ไม่ยืนยันนะครับ เพราะไม่ได้ไปเห็นเอง ส่วนจุดที่ชมโดยทั่วไปผมไม่แน่ใจว่าดูได้ตลอดริมฝั่งแม่น้ำโขงเลยหรือเปล่า เพราะอย่างที่ปากคาดจะมีสร้างบ้านพักริมแม่น้ำไปเป็นระยะๆ ครับ
โดยคุณ Joyful [2002-10-02 17:14:53] #11 (2/3)
เดี๋ยววันอาทิตย์จะเอาข้อมูลที่ดูบั้งไฟพญานาคมาอัพเดทค่ะ ส่วนพรุ่งนี้ถึงวันเสาร์ ข้าพเจ้าหยุดงานละ ฮ่า ๆๆ ทำงานมาแปดวันแระ พรุ่งนี้จะนอนผึ่งพุงให้สบายไปเล้ยยยยยยยยยยยยยยย
โดยคุณ คนบ้า [2003-09-09 16:22:19] #1941 (3/3)

บั้งไฟพญานาค

ลูกไฟแดงอมชมพู ที่พุ่งขึ้นจากแม่น้ำโขง สู่ท้องฟ้าในวันออกพรรษาที่บริเวณจังหวัดหนองคาย เห็นจนชินและเรียกสิ่งนี้ว่า ?บั้งไฟพญานาค? เพราะลูกไฟที่ว่านี้จะเป็นลูกไฟ สีแดงอมชมพู ไม่มีเสียงไม่มีควัน ไม่มีเปลว ขึ้นตรง ไม่โค้งและตกลงมาเหมือนลูกไฟทั่วไป จะดับกลางอากาศ สังเกตได้ง่ายจากลูกไฟทั่วไป จะเกิดขึ้นมากที่สุดคือบริเวณป่าช้าบ้านต้อน บ้านน้ำเป บ้านท่าม่วง ห้วยคาด อ.ปากคาด ลานเอนกประสงค์เทศบาลปากคาด วัดหลวง แก่งอาฮง อ.บึงกาฬ

ก่อนนี้คน เห็นแล้วก็เฉย ๆ เพราะเห็นประจำทุกปีในวันออกพรรษา ผู้เขียนสมัยเมื่ออายุยังน้อย เมื่อวันออกพรรษา ได้ไปนั่งดูอยู่ที่ริมโขงห้วยคาด อ.ปากคาด และได้ลงเรือไปไหลเรือไฟด้วย เมื่อไหลเรือไฟมาถึงบริเวณท่าน้ำวัดหลวงก็จะเริ่มเห็นลูกไฟดังกล่าวพุ่งขึ้นจากแม่น้ำโขง ขึ้นสูงไม่เกิน 2-3 วา นาน ๆ จะพุ่งขึ้นที จะขึ้นก็ต่อเมื่อประชาชนบนฝั่งเวียนเทียนเสร็จ เงียบ ลูกไฟถึงจะขึ้นให้เห็น แต่ทุกวันนี้ เมื่อ 18.00 น ก็ขึ้นแล้วขึ้นสูงถึง 200-300 เมตร และขึ้นแต่ละทีก็มากด้วย ตั้งแต่ 5-20 ลูกติดต่อกัน

สังเกตว่า ลูกไฟนี้หากขึ้นกลางโขงจะเบนเข้าหาฝั่ง หากขึ้นใกล้ฝั่งจะเบนออกกลางโขง ลูกไฟนี้จะขึ้นเฉพาะวันออกพรรษาเท่านั้น แต่ถ้าหากวันพระไทย ไม่ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ ของลาว ลูกไฟนี้ก็จะไม่ขึ้น ปีไหน (วันออกพรรษา) ตรงกันทั้งไทย และ ลาว ลูกไฟนี้จะขึ้นมาก เชื่อกันว่าที่ บ้านนำเป มีเมืองบาดาล อยู่ใต้พื้นดินและเป็นทางออกสู่เมืองมนุษย์ เรียกว่า เป็นเมืองหน้าด่านจึงมีบั้งไฟพญานาค เกิดขึ้นเป็นประจำที่นี้ ส่วนเมืองหลวงนั้นอยู่ที่ แก่งอาฮง อ.บึงกาฬ ที่ว่าอย่างนั้นเพราะที่แก่งอาฮง เมื่อหน้าแล้งจะมีสะดือแม่น้ำโขง ตลอดความยาวของแม่น้ำโขง ที่ไหลผ่านหลายประเทศ ตรงที่ลึกที่สุดก็อยู่ที่แก่งอาฮง เมื่อหน้าแล้ง ชาวประมงวัดโดยใช้เชือกผูกก้อนหินหย่อนลงไปได้ 99 วา ที่นี้จะมีลูกไฟขึ้นเป็นสีเขียวนวล บ่อยครั้งที่ชาวลุ่มแม่น้ำโขงต้องเสียชีวิตลงในระหว่างการเดินทาง ทางน้ำ พวกเขาเชื่อว่าเป็นการกระทำผิดต่อเจ้าแม่สองนาง หรือ เทพเจ้าทางน้ำ จึงถูกลงโทษเหตุนี้เรียกว่า ?เงือกกิน? ?เงือก, งู? เป็นสิ่งเดียวกันกับพญานาค แต่พญานาคนั้นมีภพเป็นที่อยู่อีกมิติหนึ่ง สามารถแปลงร่างได้หลายชนิด แปลงกายเป็นมนุษย์ หรือ อะไรก็ได้ เพียงแค่คิดเท่านั้นรูปร่างก็เปลี่ยนไปแล้ว จึงได้ปรากฏอยู่บ่อยๆ ว่ามีคนเห็นงูใหญ่ หรือเห็นคนเดินลงไปในน้ำ หรือหลายครั้งที่มีคนพบรอยประหลาดแต่ก็เชื่อว่าเป็นรอยพญานาคที่เกิดขึ้นในเขต อ.โพนพิสัย หรือที่อื่น ๆ แม้แต่กลางกรุงเทพ ฯ ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว แต่หากคิดว่าทำไมและเกิดขึ้นได้อย่างไรนั้น และทำไมจะต้องเกิดขึ้นเฉพาะในวันออกพรรษาเท่านั้น และจะต้องตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ ของลาวจึงเชื่อได้ว่าพญานาค มีสัญชาติเชื้อชาติ ลาว ถึงแม้จะเกิดขึ้นทางฝั่งไทยก็ตาม

นับว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อ และเป็นสิ่งมหัศจรรย์แห่งลุ่มแม่น้ำโขงที่แท้จริง เพราะลูกไฟประหลาดหรือที่เรียกว่า ?บั้งไฟพญานาค? นี้เกิดขึ้นเฉพาะในเขต จ.หนองคายเท่านั้น ตามแนวแม่น้ำโขง ไม่มีขึ้นที่อื่นแม้จะอยู่ตามริมแม่น้ำโขงเช่นกัน จึงนับได้ว่าหนองคายกับเวียงจันทน์ สมัยก่อนนั้นการปกครองและการสร้างเมืองโดยพญานาค จึงได้รับอิทธิพลนี้เช่นกัน ถึงแม้ว่าจะถูกแยกการปกครอง และ แยกประเทศออกจากกัน แต่ในความเป็นจริงทางภูมิศาสตร์ก็เป็นพื้นที่เดียวกัน

ตำนานประเพณีต่าง ๆ ของคนแถบลุ่มแม่น้ำโขง จะเกี่ยวข้องกับพญานาคกันทั้งนั้น เพราะพญานาค หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ทางการเกษตร และความเป็นอยู่ของมนุษย์

ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นก็เพื่อ ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ พญานาค ก่อนว่ามีความเป็นมาอย่างไร และ สำคัญอย่างไร กับเมืองหนองคาย-เวียงจันทน์ และทำไม?บั้งไฟพญานาค?จึงได้เกิดขึ้นเฉพาะเขต จ.หนองคาย เท่านั้น และที่สำคัญจะเกิดขึ้นเฉพาะวันขึ้น 15 ค่ำ ที่ตรงกันระหว่าง ไทย-ลาว หากปีไหนแปดสองหนบั้งไฟพญานาค ก็จะเลื่อนไปขึ้นในวันพระลาว (15 ค่ำ ลาว) เป็นเรื่องที่ท้าทายให้มาดูมหัศจรรย์แห่งลุ่มแม่น้ำโขง บั้งไฟพญานาคว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ทำไมจึงต้องเกิดในวันดังกล่าวเท่านั้น ใครทำเพื่ออะไร และ ได้อะไรจากการกระทำดังกล่าว เชื่อว่าหลายคนยังต้องการไปพิสูจน์ความมหัศจรรย์นี้อยู่ (ตำนานพระพุทธศาสนา กล่าวว่า เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จขึ้นไปโปรดพระมารดา บนดาวดึงส์ ครบ 3 เดือน เมื่อเสด็จกลับโลกมนุษย์ พญานาคได้เนรมิตบันไดแก้ว เงิน ทอง เสด็จลงมา มนุษย์ เทวดา พญานาค ได้ฉลองสมโภชด้วยการจุดบั้งไฟถวาย โดยเฉพาะเหล่าพญานาค ดังนั้นต่อมาเหล่าพญานาคจึงได้ถือเอาวันออกพรรษาเป็นวันสำคัญ)........