กลับหน้าแรก | กระดานข่าวสีเขียว - สีคราม
ค้นหาคำถาม
:: TRIP & TREK :: โลกกว้างของคนเดินทาง :: :: ทริปเดินทาง ::: พาใจไปเที่ยว :: :: TRIP & TREK :: โลกกว้างของคนเดินทาง ::
เชิญตั้งคำถามของคุณได้ที่นี่ครับ
บนเส้นทาง 1.864 โค้งของผม

เมื่อวันหยุดยาวช่วงปีใหม่ ได้มีโอกาสเดินทางขึ้นเหนือมาครับ
ออกเดินทางดึกๆของคืนวันที่ 30 ธันวา ไปเช้าที่ทางแยกเข้าอ.ลี้
จากลี้ก็เข้าเชียงใหม่ทางอ.ดอยเต่า อ.ฮอด แวะทานข้าวซอยอร่อยๆเอาแรงที่ตลาดฮอดซะหน่อยก่อน
แล้วก็ซื้อเสบียงอาหารต่างๆสำหรับมื้อเย็น
จากนั้นเดินทางต่อไปที่อช.ออบหลวง คืนแรก(31 ธ.ค.) เรากางเต้นท์นอนกันที่อช.ออบหลวง
บรรยากาศดีใช้ได้ครับ นอนกันริมน้ำแม่แจ่ม คนไม่เยอะมากนัก เพราะส่วนใหญ่จะแวะชมออบหลวงกัน แต่ไม่ค่อยได้แวะนอนกางเต้นท์
ก็ดีเหมือนกันครับ ไม่ต้องแย่งกันกิน ไม่ต้องแย่งกันเข้าห้องน้ำเหมือนตามอช.ดังๆเช่นพวกห้วยน้ำดังหรืออินทนนท์ ฯลฯ
เจ้าหน้าที่ของอช.ก็ดีเหลือหลาย เดินมาแวะทักทาย พูดคุยกับเราอยู่บ่อยๆ ถามโน่นถามนี่ มีอะไรขาดเหลือมั้ย มีอะไรขาดตกบกพร่องรึเปล่า ?.. เยี่ยมมากเลยครับ
คืนนั้นเรานั่งคุยกันจนถึงเที่ยงคืนเพื่อรอให้ถึงวันปีใหม่กัน เพียงแต่ไม่มีบรรยากาศของการ count down เหมือนอย่างที่เคยทำๆกัน
จะมีก็แต่บรรยากาศของการสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัยและแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลไปให้พี่น้องที่ประสบภัยคลื่นสึนามิที่ภาคใต้

ภาพบรรยากาศบริเวณที่กางเต้นท์นอนครับ
โดยคุณ debby [2005-01-07 15:08:15] Bookmark and Share

โดยคุณ debby [2005-01-07 15:13:37] #5370 (1/24)

อุทยานแห่งชาติออบหลวง มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอจอมทอง อำเภอฮอด และอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ มีสภาพป่าที่สมบูรณ์ด้วยระบบนิเวศทุกประการ ทั้งมีความสวยงาม และ ความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ มีคุณค่าทางโบราณคดีทางประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรมของมนุษยชาติ ทั้งทาง ธรณีวิทยาและคุณค่าทางสถาปัตยกรรมทางธรรมชาติ เหมาะแก่การศึกษาค้นคว้าทางวิชาการ และเป็นสถานที่ ท่องเที่ยวที่มีคุณค่าและความสวยงามอย่างยิ่ง มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 345,625 ไร่ หรือ 553 ตารางกิโลเมตร

ในปี พ.ศ. 2508 กรมป่าไม้เห็นว่าบริเวณริมถนนในท้องที่ตำบลหางดง อำเภอฮอดและตำบลบ้านแปะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นสถานที่ร่มรื่น สภาพภูมิประเทศสวยงามแปลกตา มีความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ประกอบด้วยโขดผา แมกไม้และลำน้ำที่ไหลแรงผ่านหลืบเขา ที่ชาวเมืองเหนือเรียกว่า ?ออบหลวง? เป็นที่ซึ่งประชาชนชอบไปพักผ่อนชมธรรมชาติความรื่นรมย์อยู่เป็นประจำ จึงได้จัดให้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของ ประชาชนในรูปแบบของวนอุทยานตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2509 อยู่ในความดูแลของสำนักงานป่าไม้เขตเชียงใหม่

ในส่วนที่ได้จัดตั้งเป็นวนอุทยานออบหลวง ในอดีตเป็นสถานที่พักของพวกทำไม้บริษัทบอร์เนียว ซึ่งในสมัยนั้นการทำไม้สักใช้วิธีลำเลียงล่องมาตามลำน้ำแม่แจ่ม ไม้จะมาวนอยู่ที่ออบหลวงซึ่งเป็นวังน้ำวนและลึกมาก จากออบหลวงที่มีหน้าผาสูงชัน น้ำตกจากหน้าผาสูง บริษัททำไม้จึงตั้งปางพักตรงจุดนี้เพื่อคอยเก็บไม้ที่ไหลมา ไม่ให้ไหลลงไปวังน้ำวน ตามประวัติดั้งเดิมเล่าสืบต่อกันมาว่า ลำน้ำแม่แจ่มสมัยก่อนเรียกว่า ?แม่น้ำสลักหิน? เนื่องจากแม่น้ำนี้ได้เจาะภูเขาหินลูกหนึ่งจนทะลุไหลผ่านเป็นลำน้ำตรงที่เรียกว่า ?ออบหลวง? ในปัจจุบัน ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นแม่น้ำแม่แจ่ม ซึ่งเป็นชื่อที่เรียกกันอยู่ทุกวันนี้

ต่อมากรมป่าไม้ได้โอนวนอุทยานออบหลวง มาอยู่ในความดูแลของกองอุทยานแห่งชาติ และในต้นปี พ.ศ. 2531 นายธำมรงค์ ประกอบบุญ ผู้อำนวยการกองอุทยานแห่งชาติ ได้ให้นโยบายและสั่งการให้วนอุทยานออบหลวงดำเนินการสำรวจเบื้องต้นพื้นที่ข้างเคียงโดยรอบวนอุทยาน เพื่อยกฐานะจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ ผลการสำรวจตามหนังสือ ที่ กษ 0713(อล)/พิเศษ ลงวันที่ 27 เมษายน 2531 และ ที่ กษ 0713(อล)/พิเศษ ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2531 รายงานว่าป่าจอมทอง ป่าแม่แจ่ม-แม่ตื่น และป่าแม่แจ่ม ที่ทำการ สำรวจพื้นที่จะกำหนดเป็นอุทยานแห่งชาตินี้แต่เดิมได้กำหนดให้เป็นป่าถาวรของชาติ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2509

ต่อมาได้ประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 กล่าวคือ ป่าจอมทองเป็นป่าสงวนแห่งชาติ ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 212 (พ.ศ. 2510) ประกาศในพระราชกิจจานุเบกษาเล่ม 84 ตอนที่ 82 วันที่ 21 สิงหาคม 2510 ป่าแม่แจ่ม-แม่ตื่นเป็นป่าสงวนแห่งชาติตามกฎกระทรวงฉบับที่ 189 (พ.ศ. 2509) ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่ม 83 ตอนที่ 119 วันที่ 31 ธันวาคม 2509 ป่าแม่แจ่มเป็นป่าสงวนแห่งชาติตามกฎกระทรวงฉบับที่ 712 (พ.ศ. 2571) ประกาศในพระราชกิจจานุเบกษาเล่ม 91 ตอน 225 วันที่ 29 ธันวาคม 2517 เนื้อที่ทำการสำรวจประมาณ 630 ตารางกิโลเมตร มีสภาพป่าสมบูรณ์ด้วยระบบนิเวศทุกประการมีจุดเด่นทางธรรมชาติสวยงาม และเป็นแหล่งทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญยิ่ง เหมาะสมสำหรับ การจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติได้

กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ ได้ทำการตรวจสอบและได้มีหนังสือ ที่ กษ 0713/1403 ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2531 เสนอกรมป่าไม้มีคำสั่งที่ 824/2531 ลงวันที่ 2 ธันวาคม 2531 ให้ นายไชโย ยิ่งเภตรา เจ้าพนักงานป่าไม้ 5 ไปทำการสำรวจข้อมูลเพิ่มเติมและได้ประกาศจัดตั้งพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ 108 ตอน 211 ลงวันที่ 4 ธันวาคม 2534 เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 68 ของประเทศ
(ที่มา ? www.dnp.go.th )
โดยคุณ debby [2005-01-07 15:14:59] #5371 (2/24)

ริมน้ำยามเย็น
โดยคุณ debby [2005-01-07 15:16:10] #5372 (3/24)

นี่คือไฮไลท์ของอช.ออบหลวงครับ
โดยคุณ debby [2005-01-07 15:17:07] #5373 (4/24)

เช้าวันที่ 1 ม.ค. เราตื่นแต่เช้า เดินเข้าไปที่เส้นทางศึกษาธรรมชาติของอช. ขึ้นไปที่จุดชมวิวบนยอดผาช้าง เดินพอเหนื่อย ก็กลับมากินอาหารเช้ากันแบบง่ายๆ แล้วเก็บเต้นท์ออกเดินทางมุ่งหน้าเข้าจ.แม่ฮ่องสอนกันต่อ
ระหว่างทางก็แวะทางตามรายทางไปเรื่อย เริ่มจากบ่อน้ำพุร้อนเทพพนม ที่ออกจะมีน้ำ?พุ่ง?ออกมาน้อยไปซักหน่อย
ออกจากบ่อน้ำพุร้อน เราก็แวะที่สวนสนบ่อแก้ว ซึ่งในวันนี้ดูจะแห้งแล้งไปหน่อย ไม่เขียวชอุ่มสดชื่นเหมือนในภาพถ่ายที่เราเคยเห็นๆกัน แต่ก็ได้บรรยากาศสวยงามร่มรื่นไปอีกแบบเหมือนกัน
โดยคุณ debby [2005-01-07 15:18:47] #5374 (5/24)

และหลังจากแวะทานกลางวันกันที่แม่สะเรียงเรียบร้อยแล้ว เราออกเดินทางต่อและไปแวะที่ถ้ำแก้วโกมล ซึ่งที่ถ้ำแก้วฯนี้ คนเยอะมั่กๆครับ รอคิวเข้าชมถ้ำกันเป็นหลายร้อยคน คิวนึงประมาณ 20 คน เข้าครั้งละประมาณ 20 นาที มีอยู่เกือบ 40 คิว ผมเลยไม่ลังเลที่จะชวนเพื่อนๆกลับออกมา เพื่อเดินทางต่อ โดยไม่ต้องคิดเสียเวลาไปต่อคิวเลย
และในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงจ.แม่ฮ่องสอน คืนนี้เราเข้าพักกันที่ริมน้ำกลางดอยรีสอร์ท เพื่อนๆทั้งหมดก็นอนในห้องพักที่เราจองไว้แล้ว ส่วนผมและเพื่อนอีกสองคน มันว้อนท์ครับ ?. ก็เลยสนองความว้อนท์ด้วยการไปกางเต้นท์นอนริมแม่น้ำที่อยู่ติดกับรีสอร์ท ได้บรรยากาศดีไปอีกแบบ
เช้าวันรุ่งขึ้น เราก็เดินทางขึ้นนมัสการพระธาตุดอยกองมู ซึ่งเป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของจ.แม่ฮ่องสอน เรียกว่าใครมาแม่ฮ่องสอนแล้ว ถ้าไม่ได้ขึ้นมาไหว้พระธาตุดอยกองมู ก็ถือว่าคุณยังมาไม่ถึงแม่ฮ่องสอนจริงๆ
โดยคุณ debby [2005-01-07 15:20:13] #5375 (6/24)

พอลงมาจากพระธาตุฯ เราก็เข้าไปที่ตลาดหาโจ๊กรองท้องคนละชามสองชาม แล้วก็ไปที่ท่าเรือห้วยเดื่อ เพื่อจะเดินทางไปยังบ้านน้ำเพียงดิน ซึ่งเป็นที่อยู่ของชาวปาดอง(กระเหรี่ยงคอยาว) แต่ปรากฏว่าเรือรับนักท่องเที่ยวที่มีอยู่ตอนนั้น ไม่เพียงพอสำหรับปริมาณนักท่องเที่ยว ก็คือพูดง่ายๆ ก็ต้องรอคิวอีกนั่นแหละ ? ผมมันวัยรุ่นใจร้อนอยู่แล้ว ก็เลยชวนเพื่อนๆบอกให้กลับมานอนเล่นที่รีสอร์ทแล้วซักพักก็เก็บของเดินทางกันต่อเถอะ
*** แนะนำเลยนะครับว่า ถ้าไปเที่ยวที่ฮิตๆ ดังๆ ในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวแบบนี้ คุณทำใจไว้ได้เลยว่าอาจจะไม่ได้เที่ยวอย่างเต็มที่ แบบที่ผมเจอเนี่ยแหละ ***

หลังจากนั้น เราก็เดินทางออกจากจ.แม่ฮ่องสอน มุ่งหน้าสู่อ.ปาย ระหว่างทางก็แวะที่อช.ถ้ำปลา-ผาเสื่อ ดูปลาพลวงตัวเท่าต้นขานักฟุตบอลเป็นหมื่นๆตัว
พอถึงอ.ปาย ก็แวะซื้อเสบียงและทานอาหารกลางวันกัน แล้วรีบเดินทางสู่หน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะ ซึ่งถือเป็นจุดสำคัญของทริปนี้ เนื่องจากได้รับข้อมูลมาว่าต้นนางพญาเสือโคร่งที่นั่นกำลังเบ่งบานอวดดอกสีชมพูกันชนิดที่เรียกว่า เต็มไปหมดทั้งดอยเลยทีเดียว
โดยคุณ debby [2005-01-07 15:22:19] #5376 (7/24)

ณ ที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่ไร้ซึ่งความเจริญและความสะดวกสบายใดๆทั้งสิ้น ไม่มีรีสอร์ทหรู ไม่มีห้องอาบน้ำอุ่น ไม่มีโค้กเย็นๆขาย ไม่มีแสงสี ต้องใช้ไฟปั่นกันเอง
แต่สิ่งที่ที่นี้มีก็คือ ? ธรรมชาติที่สวยงามราวกับมีศิลปินมาแต่งแต้มสีสันเอาไว้ มีน้ำจิตน้ำใจจากน้องๆเจ้าหน้าที่ที่เป็นกันเองและใจดีกับพวกเราอย่างน่าใจหาย
โดยคุณ debby [2005-01-07 15:27:28] #5377 (8/24)


หลังจากชื่นชมดอยสีชมพูกันพอหอมปากหอมคอแล้ว เราก็เริ่มปฏิบัติการห้องครัวเคลื่อนที่กันทันที และหลังจากอิ่มหนำสำราญกันเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มขยับขยายไปตั้งสภากาแฟหรือจะเป็นสภาแอลกลอฮอร์ก็ว่ากันไป นั่งคุยกันรอบๆกองไฟที่ช่วยสร้างความอบอุ่นให้เราได้เป็นอย่างมาก

เช้าวันต่อมาหลังจากพาร่างกายออกมาจากถุงนอนแล้ว ก็พากันเดินชื่นชมความอลังการของดงนางพญาเสือโคร่งบริเวณรอบๆที่ทำการหน่วยฯ ถ่ายภาพกันจนหนำใจ (บางคนถึงกับการ์ดเต็ม, ฟิล์มหมดเลยก็มี) แล้วเราก็เริ่มมื้อเช้าวันใหม่นี้ด้วยมาม่าต้มน้ำกระดูกหมูที่แสนเอร็ดอร่อย
โดยคุณ debby [2005-01-07 15:30:09] #5378 (9/24)

ให้ภาพบรรยายตัวของมันเองนะครับ
โดยคุณ debby [2005-01-07 15:30:47] #5379 (10/24)

...
โดยคุณ debby [2005-01-07 15:31:55] #5380 (11/24)

โดยคุณ debby [2005-01-07 15:33:38] #5381 (12/24)

ยังเหลืออีกเพียบเลย
ไปต่อกระทู้ข้างบนกันอีกนะครับ
โดยคุณ wid [2005-01-07 15:43:59] #5382 (13/24)
wow wow ...
โดยคุณ adnav_ja [2005-01-07 17:25:13] #5402 (14/24)
ทำไมเมืองไทยสวยงามอย่างนี้คะ...
โดยคุณ น้าหล่อ [2005-01-07 19:52:46] #5405 (15/24)
สวยจัง ทำไมเราไม่ถ่ายได้ยังงี้วะ
โดยคุณ ฮานาเล [2005-01-07 21:55:44] #5408 (16/24)
ไม่อยากดูรูปดอกไม้สีชมพู...
โดยคุณ BACK DOWN [2005-01-08 01:35:39] #5415 (17/24)

ไม่ได้มาทักทายกันเลย ก็หวัดดีปีใหม่ปี48 ครับ เมื่อปีใหม่ผมไปน่านมา มีสีสันคล้ายๆ กันมาให้ติชมกันนะครับ debby
โดยคุณ BACK DOWN [2005-01-08 01:41:14] #5416 (18/24)

ยังมีอีกครับ..............
โดยคุณ ฅนหลังเขา [2005-01-08 15:01:16] #5462 (19/24)
โดยคุณ debby [2005-01-10 11:19:26] #5493 (20/24)
อ้าว ? หวัดดีน้าโจ
วันหลังไปออกทริปด้วยกันมั่งดิครับ
ชวนน้องๆที่อสท.ไปด้วยก็ล่ายนะ อิอิ
โดยคุณ big angel Mail to big angel [2005-01-12 11:55:10] #5554 (21/24)
ขอบอกว่า รูปสวยมากๆ
โดยคุณ พี่เจี๊ยบ [2005-01-12 17:17:26] #5560 (22/24)
พาน้องที่ office มาช่วยกันชมค่ะ ( ชอบใจใหญ่เลย )
โดยคุณ ช.ช้าง [2005-01-20 14:19:17] #5819 (23/24)
แสงเงาเยี่ยมไปเลย...
โดยคุณ แจนเอง Mail to แจนเอง [2005-01-22 20:31:19] #5843 (24/24)
สวยจังค่ะ สวยมากๆ สวยค่ะ