หน้า: [1] 2
|
|
|
ผู้เขียน
|
หัวข้อ: Dream Destinations 2 (อ่าน 15853 ครั้ง)
|
|
|
BlackCap
Sr. Member
ออฟไลน์
กระทู้: 313
|
มกราคม, January สวนทิวลิป เทศกาลเชียงรายดอกไม้งาม อ.เมือง จ.เชียงราย
ลมหนาว ทิวลิป และล้านนา ความสุขจากเหนือสุดแดนสยาม หนึ่งปีมีเพียงครั้งเดียวที่เชียงรายจะได้กางอ้อมกอดแห่งสีสัน โอบรับนักเดินทางด้วยงานเทศกาลเชียงรายดอกไม้งามอันละลานตาด้วยไม้ดอกเมืองหนาวที่ออกดอกชูช่อให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชม ทั้งดอกลิลลี่ พิทูเนีย บลูฮาวาย และอีกสารพันไม้ดอกไม้ประดับ ทว่าดาวเด่นของอุทยานดอกไม้ในครั้งนี้ ต้องยกให้แปลงดอกทิวลิปในงานเทศกาลเชียงรายดอกไม้งาม ซึ่งจะอวดโฉมความงดงามให้ทุกคนได้ชื่นชม ณ สวนตุงและโคมนครเชียงราย ที่แห่งนี้คลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่ปรารถนาจะเห็นดอกอวบอิ่มของทิวลิปเป็นขวัญตาสักครั้ง เพราะไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงต่างประเทศอีกต่อไปแล้ว ดอกทิวลิปก็มาอวดความงามอยู่ใกล้แค่เอื้อมบนดินแดนเหนือสุดแดนสยาม...เท่านั้นเอง
เติมสุขสนุกเที่ยว
สักการะอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช ชมความงามของวัดพระแก้ว, ช้อปปิ้งบนถนนคนเดินเชียงรายที่มีทุกเสาร์และถนนคนม่วนทุกวันอาทิตย์, เที่ยวไร่แม่ฟ้าหลวง แหล่งเรียนรู้ด้านประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าของเมืองเชียงรายได้ทั้งช่วงกลางวัน(สำหรับช่วงกลางคืนถึงเดือนมกราคม 2557), ปั่นจักรยานชมกิจกรรมในไร่บุญรอดสิงห์ปาร์ค เชียงราย เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยดอกทิวลิป
แท้จริงแล้ว ทิวลิปเป็นดอกไม้เมืองหนาวที่มีถิ่นกำเนิดจากประเทศตุรกี ไม่ใช่ประเทศเนเธอร์แลนด์ สำหรับในประเทศไทย สำนักงานเกษตรที่สูงดอยผาหม่น ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย เคยปลูกดอกทิวลิปเมื่อปีพ.ศ. 2549 ดอกทิวลิปบานในอุณหภูมิ 18-20 องศาเซลเซียส โดยอยู่ได้นาน 7-15 วัน การเดินทาง
จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางนครสวรรค์-ลำปาง-พะเยา-เชียงรายจากรังสิตมาตามถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) แล้วแยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 32 ที่อำเภอวังน้อย จากนั้นผ่านจังหวัดอยุธยา สิงห์บุรี ชัยนาท นครสวรรค์ กำแพงเพชรและตาก เข้าสู่จังหวัดลำปาง แล้วตรงไปจังหวัดพะเยาจนเข้าสู่เชียงราย รวมระยะทาง 830 กิโลเมตร สวนตุงและโคม ตั้งอยู่บนถนนธนาลัย ในตัวเมือง จ.เชียงราย มีสายการบินบริการเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ สู่จังหวัดเชียงราย สอบถามยามดอกไม้บาน
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงราย โทร.0 5371 7433, 0 5374 4674-5 ได้ทุกวันในเวลาราชการ
|
Jan_4.jpg (278.3 KB, 600x900 - ดู 1352 ครั้ง.)
Jan_5.jpg (102.64 KB, 600x900 - ดู 1369 ครั้ง.)
Jan_6.jpg (134.95 KB, 600x899 - ดู 1325 ครั้ง.)
Jan_7.jpg (121.56 KB, 600x899 - ดู 1369 ครั้ง.)
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 01, 2015, 08:50:42 PM โดย BlackCap »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
BlackCap
Sr. Member
ออฟไลน์
กระทู้: 313
|
กุมภาพันธ์, February ถนนเหลืองปรีดียาธร จ.สุพรรณบุรี
หนึ่งปีมีเพียงครั้งที่ถนนสายสุพรรณฯ สวยบาดใจราวถนนสายสวรรค์ แม้ในวันที่ร้อนอบอ้าว แต่ริมถนน 3502 มุ่งหน้าสู่อำเภอสามชุกจังหวัดสุพรรณบุรีกลับดูสดชื่นระรื่นตาจากสีเหลืองอร่ามของต้นเหลืองปรีดียาธร ที่ผลิดอกบานสะพรั่งรับฤดูร้อน สร้างความเพลิดเพลินเจริญตาให้กับผู้สัญจรผ่านไปมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ กลายเป็นหนึ่งในความงดงามแห่งปีที่หลายคนอดใจไม่ไหว ต้องจอดรถแล้วเก็บภาพถ่ายประทับใจครั้งนี้ไว้เป็นครั้งหนึ่งของประสบการณ์การเดินทางน่าจดจำ ช่วงหน้าร้อนของทุกปี ถนนสายนี้จะถูกแต่งแต้มไปด้วยสีเหลืองสดใส ยิ่งในวันท้องฟ้าเจิดจรัส สีเหลืองของดอกไม้ที่ตัดกับผืนแผ่นฟ้าสีเข้มด้วยแล้วความลงตัวของสีสันจะทำให้ถนนสายนี้ของจังหวัดสุพรรณบุรีกลายเป็นหนึ่งในถนนสวยที่สุดของประเทศไทย ซึ่งสร้างสรรค์จากความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ร่ายมนต์เนรมิตความสุขบนเส้นทางได้อย่างน่าหลงใหล
เติมสุขสนุกเที่ยว - ชมความงดงามเหลืองปรีดียาธรริมถนนแล้ว ไปช้อปปิ้งกันต่อที่ตลาดร้อยปีสามชุก ซึ่งอยู่บนเส้นทางเดียวกัน - หมู่บ้าน unseen เลี้ยงแย้ หมู่บ้านอนุรักษ์แย้ วัดสุวรรณตะไล ต.หนองสะเดา อ.สามชุก เป็นแหล่งท่องเที่ยวแหล่งใหม่บนถนนสายดอกไม้เหลืองปรีดียาธร ในการท่องเที่ยวเชิงนิเวศศึกษาเรียนรู้การดำรงชีวิตของแย้
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเหลืองปรีดียาธร - แท้จริงแล้วเหลืองปรีดียาธร หรือตาเบบูยาเหลือง เป็นสายพันธุ์เดียวกับชมพูพันธ์ทิพย์ โดยหม่อมพันธ์ทิพย์ บริพัตร เป็นผู้นำเข้ามาจากประเทศอินโดนีเซีย - ดอกจะบานช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์จนถึงกลางเดือนมีนาคม
การเดินทาง จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางไปตลาดสามชุก ขับไปตามถนนเส้นทางหมายเลข 3502 (อ.สามชุก- อ.ด่านช้าง) จะพบความงดงามของเหลืองปรีดียาธรริมสองฟากถนน
สอบถามยามดอกไม้บาน - การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานสุพรรณบุรี (รับผิดชอบพื้นที่ สุพรรณบุรี,ชัยนาท,อ่างทอง) โทร. 035-525863, 035-525867 และ 035-525880 หรือ www.tatsuphan.net หรือ Fanpage : TAT_suphanburi - www.เที่ยวภาคกลาง.com หรือ Fanpage : TAT_Tiewpakklang
|
Feb_9.jpg (147.26 KB, 600x900 - ดู 1326 ครั้ง.)
Feb_10.jpg (82.5 KB, 600x830 - ดู 1283 ครั้ง.)
Feb_11.jpg (167.68 KB, 600x965 - ดู 1274 ครั้ง.)
Feb_12.jpg (139.07 KB, 600x899 - ดู 1325 ครั้ง.)
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 01, 2015, 08:57:38 PM โดย BlackCap »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
BlackCap
Sr. Member
ออฟไลน์
กระทู้: 313
|
กุมภาพันธ์, February ป่าดอกเสี้ยว ป่าเหมี้ยง อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง
สุขใจใต้ผืนฟ้าใส เมื่อดอกไม้สีขาวพร่างพราวผืนป่า เพราะผืนป่าและทิวเขาคือความงามอันพิสุทธิ์ที่คุณจะสัมผัสได้เมื่อเดินทางมาเยือนอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน แหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวยอดเยี่ยมจากททท. 3 ปีซ้อน ทว่าในช่วงเดือนกุมภาพันธ์มันน่ามหัศจรรย์ยิ่งกว่า เมื่อดอกเสี้ยวสีขาวเบ่งบานสะพรั่งทั่วผืนป่าใหญ่ สีขาวของมันในยามตัดกับผืนฟ้าสีฟ้าสดใส กลายเป็นความสุขกลางผืนป่าที่ใครก็ตามเห็นแล้วต้องร้องว้าว นอกจากนี้สองฟากถนนเส้นทางแจ้ซ้อน บ้านป่าเหมี้ยงยังเรียงรายไปด้วยต้นเสี้ยวป่า ที่พราวไปด้วยดอกสีขาวตระการตา จนดูเหมือนว่ากำลังเดินทางสู่โลกจินตนาการที่ยากจะเชื่อว่ามีอยู่จริงบนโลกใบนี้ อีกทั้งบ้านป่าเหมี้ยงยังเป็นชุมชนเล็กๆ แทรกตัวอยู่กลางป่าเหมี้ยงกลางโอบกอดของทิวเขา อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,200 เมตร มีอากาศเย็นสบายตลอดปี และเชื่อไหม...วิถีชีวิตของที่นี่ก็มีเสน่ห์งามไม่แพ้ความงามของดอกไม้เลยสักนิด
เติมสุขสนุกเที่ยว
เที่ยวอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน เดินป่าชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติของอุทยานฯ แช่ตัวในบ่อน้ำแร่ซึ่งมีบริการห้องอาบน้ำแร่ที่ดีพร้อม ชมน้ำตก แวะเที่ยวบ้านป่าเหมี้ยง ชมการละเล่นดั้งเดิม ชิมยำใบเหมี้ยง ยำดอกเสี้ยว หลามปลีไข่ ซึ่งเป็นเมนูพื้นถิ่น ส่วนใครเดินทางมาจากเชียงใหม่ สามารถแวะเที่ยวหมู่บ้านแม่กำปองซึ่งอยู่ระหว่างทางได้ เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยดอกเสี้ยว
ต้นเสี้ยวมักขึ้นตามป่าเบญจพรรณทางภาคเหนือและทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ จริงๆ แล้วเป็นต้นไม้ที่มีดอกตลอดทั้งปี แต่จะออกดอกดกมากในช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึง เดือนมีนาคม เป็นต้นไม้ที่มีสรรพคุณทางยา ดอกสามารถนำมา ทำเป็นยำดอกเสี้ยวหรือดอกเสี้ยวชุบแป้งทอดรับประทานได้ การเดินทาง
จากตัวเมืองลำปางไปตามทางหลวงหมายเลข 1035 เส้นลำปาง-แจ้ห่ม ไปจนถึงประมาณกิโลเมตรที่ 58 เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 1287 ทางเข้าไปอำเภอเมืองปาน แล้วเลี้ยวขวาที่สามแยกใช้ทางหลวงหมายเลข 1252 เส้นข่วงกอม-ปางแฟน ประมาณ 11 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าอุทยานฯตามถนนรพช. อีก 3 กิโลเมตรถึงที่ทำการอุทยานฯ เส้นทางจากจังหวัดเชียงใหม่ไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 1006 ผ่านอำเภอสันกำแพงแล้วเข้าสู่ถนนสายห้วยแก้วบ้านแม่กำปองผ่านบ้านป่าเหมี้ยงถึงที่ทำการอุทยานฯ สอบถามยามดอกไม้บาน
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ (เขตรับผิดชอบ : เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง) โทร. 0 5327 6140-1, 0 5324 8607, 0 5324 8604 อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน โทร. 0 5438 0000, 08 9851 3355 และ https://www.facebook.com/jaeson.nook
|
Feb_13.jpg (215.15 KB, 600x900 - ดู 1319 ครั้ง.)
Feb_14.jpg (91.86 KB, 600x863 - ดู 1327 ครั้ง.)
Feb_15.jpg (128.8 KB, 600x1030 - ดู 1462 ครั้ง.)
Feb_16.jpg (168.5 KB, 600x902 - ดู 1302 ครั้ง.)
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 01, 2015, 08:56:45 PM โดย BlackCap »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
BlackCap
Sr. Member
ออฟไลน์
กระทู้: 313
|
มีนาคม, March อุโมงค์ชมพูพันทิพย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม
สดใสในโลกสีชมพูแห่งคิมหันต์ฤดูอันแสนสุข ถนนที่ไหนคงแลดูเป็นสีเทาเหมือนกัน หากถนนภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม กลับถูกระบายกลายเป็นพื้นพรมสีชมพูแสนหวานสร้างความพิเศษโดดเด่นไม่เหมือนใคร กว่า 30 ปีแล้วที่ชมพูพันธุ์ทิพย์ได้หยั่งรากเรียงรายริมสองฟากถนนเป็นแนวยาวไกลสุดตา ครั้นเมื่อลมร้อนพัดผ่านเป็นสัญญาณบอกว่าได้เวลาชมความงดงามแห่งเหล่าไม้ใหญ่ เมื่อดอกสีชมพูพากันพร้อมใจเบ่งบานราวกับบทเพลงอ่อนหวานที่ขับกล่อมฤดูร้อนของทุกปีให้เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ทั้งบริเวณริมถนนวัฒนาเสถียรสวัสดิ์ ที่เป็นไฮไลต์ด้วยมีชมพูพันธุ์ทิพย์เรียงรายกว่า 200 ต้น จนใครต่อใครพากันเรียกขานให้ที่นี่เป็นถนนสายสีชมพู รวมทั้งรอบๆ สระพระพิรุณ ใจกลางมหาวิทยาลัย เป็นอีกมุมหนึ่งที่หลายคนเลือกเก็บความประทับใจไว้ในความทรงจำ นำพาไปสู่หลากหลายกิจกรรมสร้างความสุขสันต์ ถ่ายรูปกันสนุกสนาน ปั่นจักรยานพาเพลิน แม้กระทั่งคู่รักบางคู่ยังใช้ที่แห่งนี้เป็นฉากสุดโรแมนติกในภาพถ่ายวันแต่งงาน เพราะโลกสีชมพูของที่นี่ช่างสดใสยากจะหาที่ใดเหมือน
เติมสุขสนุกเที่ยว
แวะชมอุทยานแมลงเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรียนรู้แมลงหลากหลายชนิดในโลกเราผ่านโดมแมลง หอนิทรรศการและพิพิธภัณฑ์ภายในนั้น เที่ยวฟาร์มวารานัส ฟาร์มตัวเงินตัวทองที่เพาะเลี้ยงเพื่องานศึกษาวิจัยเชิงเศรษฐกิจ ตื่นตากับคาวบอยแลนด์ ชิมสเต๊กปรุงจากโคเนื้อกำแพงแสน โคเนื้อพันธุ์แรกของเมืองไทย - เยี่ยมชมพระราชวังสนามจันทร์ และกราบสักการะพระปฐมเจดีย์
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยชมพูพันธุ์ทิพย์
ชมพูพันธุ์ทิพย์มีหลายชื่อ เช่น ชมพูอินเดีย ธรรมบูชา และตาเบบูญ่า มักออกดอกในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์จนถึงเดือนมีนาคม ดอกจะบานประมาณ 2 สัปดาห์ การเดินทาง
จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนเพชรเกษม เข้าตัวเมืองนครปฐม จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าถนนมาลัยแมน ตรงไป อำเภอกำแพงแสน เรื่อยๆ จะเห็นมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน อยู่ทางซ้ายเมือ
สอบถามยามดอกไม้บาน
-มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน โทร. 0-2942-8010-9, 0-3428-1053-6,
-การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสมุทรสงคราม (รับผิดชอบพื้นที่สมุทรสงคราม, นครปฐม, สมุทรสาคร) โทร.0- 3475-2847-8 หรือ Fanpage : TAT Samut Songkhram
- www.เที่ยวภาคกลาง.com หรือ Fanpage : TAT_Tiewpakklang
|
Mar_1.jpg (288.13 KB, 600x899 - ดู 1233 ครั้ง.)
Mar_2.jpg (103.92 KB, 600x900 - ดู 1246 ครั้ง.)
Mar_3.jpg (183.52 KB, 600x1024 - ดู 1212 ครั้ง.)
Mar_4.jpg (118.93 KB, 600x899 - ดู 1264 ครั้ง.)
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 01, 2015, 09:45:58 PM โดย BlackCap »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
BlackCap
Sr. Member
ออฟไลน์
กระทู้: 313
|
พฤษภาคม, May นาบัว คลองมหาสวัสดิ์ จ.นครปฐม
แลล่องท่องสายน้ำ ดื่มด่ำความหรรษากลางนาบัว เพราะเสน่ห์ชีวิตริมสายน้ำแห่งคลองมหาสวัสดิ์กำเนิดในสมัยรัชกาลที่ 4 เป็นที่มาชื่อ ศาลา ยังคงอบอวลไปด้วยมนตราน่าหลงใหล ด้วยเรือนไม้ริมสองฟากฝั่งวางตัวในบรรยากาศละมุนละไม สะท้อนถึงลมหายใจของความเรียบง่าย แปลงผักสวนครัวเรียงรายแลดูน่ารัก ทักทายรอยยิ้มพิมพ์ใจใสซื่อจากชาวบ้านราวกับคำกล่าวต้อนรับแสนหวาน นั่นคืออีกมุมงดงามที่เป็นดังของกำนัลจากการล่องคลอง ทว่าลำคลองสายนี้กลับมีความสุขมากกว่า เพราะสุดคันคลองนั้น...เรือลำน้อยจะพาไปสู่โลกแห่งความอลังการของนาบัวที่กว้างไกลสุดสายตา พื้นที่ขนาด 20 ไร่ ตรงหน้าแห่งนี้คือ สถานที่สาธิตการทำนาบัวของชุมชนที่พวกเขาภาคภูมิใจเช้าตรู่ที่สดใสในยามสายลมโบกสะบัดพัดชื่นใจ นำพาดอกบัวฉัตตบุษย์สีขาวที่แทงก้านสูงเหนือน้ำ แทรกแซมผสานกับบัวสัตบงกชสีชมพูแสนอ่อนหวาน ทั้งดอกบานและดอกตูม พร้อมใจกันเอนไหวไปตามจังหวะแรงลมนั้น ชื่นชมการเก็บบัวของชาวบ้านพร้อมๆ กับเก็บภาพถ่ายดอกบัวงามประดับความทรงจำ ส่วนคนรักธรรมชาติคงรู้สึกชื่นบานไปกับท่วงทำนองอันพลิ้วไหวของสายลมและนาบัว
เติมสุขสนุกเที่ยว
นอกจากชมนาบัวแล้วยังสามารถล่องเรือชมนาสวนกล้วยไม้พันธุ์ทัศนีย์ซึ่งมีแห่งเดียวในประเทศไทย นั่งรถอีแต็กชมนาข้าวและสวนผลไม้ พร้อมกับเรียนรู้การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ปิดทริปด้วยการช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์ OTOP เหล่านี้ อาทิ ไข่เค็มเสริมไอโอดีน ข้าวตังจากข้าวซ้อมมือ ผลไม้อบแห้งปรุงรส ฯลฯ เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยดอกบัว
บัวฉัตตบุษย์หรือบัวฉัตรขาว จัดเป็นดอกบัวสำหรับบูชา เป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์และความดีงามในพุทธศาสนา บัวสัตบงกชเป็นบัวหลวงชนิดหนึ่งที่นิยมปลูกไว้ในบ้าน เพราะเชื่อว่าจะทำให้มีความสุขความเบิกบาน มีให้ชมทุกวันตลอดทั้งปีช่วงเวลาเหมาะสมที่สุดสำหรับการชมนาบัวคือตอนเช้า การเดินทาง
ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) หรือทางหลวงพิเศษหมายเลข 338 (ถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรี) วิ่งไปจนถึงแยกพุทธมณฑลสาย 4 จากนั้นแยกเข้าไปทางศาลายาผ่านมหาวิทยาลัยมหิดล สู่ถนนศาลายา-นครชัยศรีสังเกตป้ายวัดสุวรรณารามไปตามทางนั้นเพราะที่นี่คือจุดลงเรือล่องคลองมหาสวัสดิ์
สอบถามยามดอกไม้บาน
- วิสาหกิจชุมชนกลุ่มท่องเที่ยวคลองมหาสวัสดิ์ ศูนย์เรียนรู้เกษตรพอเพียง
หมู่ที่ 1 บ้านสุวรรณาราม ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม
-การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสมุทรสงคราม (สมุทรสงคราม,สมุทรสาคร,นครปฐม)
โทร.0-3475-2847 - 8 หรือ Fanpage : TAT Samut Songkhram
-กลุ่มแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรแม่บ้านเกษตรกร บ้านผู้ใหญ่มนูญ
โทร.0-3429-7152, 08-1495-9091
- www.เที่ยวภาคกลาง.com หรือ Fanpage : TAT_Tiewpakklangมิถุนายน, June ทุ่งดอกเปราะภูขาว อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก
ดอกเปราะภูขาวบาน ฝันหวานๆ บนภูหินร่องกล้า ครั้งหนึ่งของภูหินร่องกล้าเต็มไปด้วยร่องรอยประวัติศาสตร์ที่สำคัญของเมืองไทยก็จริง ทว่าที่นี่ยังเป็นแหล่งชมดอกไม้ช่วงหน้าฝนที่งดงามไม่แพ้สถานที่อื่นๆ โดยเฉพาะในยามที่ดอกเปราะภูซึ่งมีสีขาวสดใสผลิดอกสะพรั่งแทรกแซมอยู่ตามลานหินต่างๆ ทำให้ธรรมชาติที่รายรอบภูหินร่องกล้าดูอ่อนหวานน่าหลงใหล ด้วยสภาพทางภูมิศาสตร์ที่แตกต่าง ดอกเปราะภูที่ภูหินร่องกล้าจึงมีสีขาวอันเป็นความพิเศษที่แตกต่างจากดอกเปราะภูที่อื่น ซึ่งส่วนมากเป็นสีชมพู โลกบนลานหินที่ดูแข็งกระด้างกลับแปรเปลี่ยนเป็นความน่ารักที่มองไปทางไหนก็เห็นแต่ดอกไม้สีขาวกระจิดริดเบ่งบานแต่งแต้มมุมโน้นมุมนี้ให้ดูดีไปเสียหมด โอกาสดีๆ เช่นนี้มีเพียงหนึ่งครั้งต่อปีเท่านั้น...ฝนนี้ไปกันเลยดีไหม?
เติมสุขสนุกเที่ยว
เที่ยวอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ชมลานหินปุ่ม ลานหินแตก ผาชูธง จุดชมวิวภูหมันขาว น้ำตกหมันแดง และน้ำตกอีกหลายสายในอุทยานฯ ย้อนอดีตไปกับเรื่องราวในพิพิธภัณฑ์การสู้รบซึ่งครั้งหนึ่งเคยเกิดขึ้น ณ ภูหินร่องกล้า และไม่ควรพลาดจุดชมวิวแห่งใหม่ ภูแผงม้า จากบนนี้จะมองเห็นวิวทิวทัศน์แบบพานอรามา เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยดอกเปราะภู
เปราะภูเป็นพืชตระกูลขิงข่ามีเหง้าอยู่ใต้ดินเหมือนดอกกระเจียว ออกดอกในช่วงฤดูฝนประมาณเดือนมิถุนายน ถึง เดือนสิงหาคม การเดินทาง
จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) แยกเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 ผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี ชัยนาท นครสวรรค์ จากนั้นแยกขวาเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 117 ถึงตัวเมืองพิษณุโลก จากตัวเมืองพิษณุโลกเส้นทางที่สะดวกที่สุด คือ ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 สายพิษณุโลก - หล่มสักแยกซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2013 ไปทางอำเภอนครไทย ก่อนถึงตัวอำเภอนครไทยมีทางแยกขวามือตามทางหลวงหมายเลข 2331 มุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า สภาพเส้นทางสูงชันและคดเคี้ยวเป็นบางช่วง สอบถามยามดอกไม้บาน
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพิษณุโลกโทร.0 5525 2742-3 อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า โทร.0 5535 6607 , 08 1596 5977
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 01, 2015, 11:22:06 PM โดย BlackCap »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
หน้า: [1] 2
|
|
|
|
|