เก็บภาพหมู่เป็นที่ระลึกกันแล้วได้เวลาอำลาแปงกองกลับสู่เลห์กันเสียที คาดการว่าวันนี้คงจะถึงเมืองกันค่ำเพราะทดเวลาบาดเจ็บกันไปหลายหน ว่าแล้วก็อย่าโอ้เอ้ดิ่งรถกลับกันเลย ทั้งทีอยากแวะเก็บภาพกันหลายจุด แต่กลัวว่าจะไปมืดค่ำที่ Chang la ซึ่งถนนทั้งลื่นและอันตราย ก็รีบไปให้ทันก่อนมืดดีกว่า บ่ายนี้เราแอบหลับกันบ้างเพราะเพลียกันมาทั้งวัน
และแล้วววววววว ห้าโมงครึ่งเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ( ยางแตกรอบเช้า ) OH Nooooooooooooooo ราเม็ชครวญเสียงดัง เพราะข้างหน้าเราคือรถคันหนึ่งที่ติดหิมะอยู่ และมีคนอีกสองสามคนช่วยกันเข็น ส่วนจี๊ปอีกคันก็รอเพื่อไปต่อ
ราเม็ชลงไปช่วยรถคันที่ติด ส่วนเราก็เดินเก็บภาพบรรยากาศรอไปเรื่อย ๆ ยิ่งใกล้ค่ำมากเท่าไหร่อากาศก็ยิ่งเริ่มหนาวและลมแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้สมาชิกที่เหลือหลบอยู่ในเพราะความหนาว ผ่านไปราวครึ่งชั่วโมงสาว ๆ ที่อยู่ในรถจี๊ปคันข้างหน้า ก็ลงจากรถและบอกว่าเราไปช่วยเขาเข็นรถกันเถอะ ( ไม่งั้นเราก็คงไม่ได้ไปไหนอะไรทำนองนั้น ) จากที่เดินถ่ายภาพเล่น ๆ อยู่ตอนแรก Joyful ก็เลยต้องแปลงกายไปช่วยเขาเข็นรถกันอีกแรง
ราวสิบนาทีก็เห็นผลเมื่อรถคันแรกหลุดจากหิมะจากไป พร้อมกับสาว ๆ จากรถจี๊ปคันข้างหน้า ทิ้งไว้เพียงเราห้าชีวิตเบื้องหลังซึ่งกลายเป็นผู้ประสบเหตุรถติดหิมะในเวลาต่อมา
เมื่อรถติดราเม็ชก็ขนเอากระสอบดินแห้ง ๆ ที่เตรียมมาจากเลห์ลงไปโรยถนน และพยายามขับให้หลุดจากหิมะลื่น ๆ นั่นแต่ก็ดูไม่ได้ผลเท่าไหร่นัก ตอนนี้หนึ่งในสมาชิกเราดูเหมือนจะมีอาการ High altitude sickness เล่นงาน อาจเพราะติดอยู่บนที่สูงนาน ๆ โดยเริ่มมีอาการปวดหัวและคลื่นใส้ซึ่งอาการและความอันตรายจากโรคที่เกิดจากที่สูง จะมาเขียนเล่าโดยละเอียดให้ภายหลัง
ไม่นานก็มีรถอีกคันซึ่งรู้จักกับราเม็ชมาช่วย ตอนนี้เปลี่ยนคนขับส่วนราเม็ช และพวกเราสามชีวิตก็ลงไปช่วยกันเข็นข้างหลัง จนล้มกลิ้งหงายท้องกันไปคนละหนสองหน พยายามกันร่วมชั่วโมงจนถึงหนึ่งทุ่ม เมื่อความมืดเริ่มโรยตัวเข้ามา ราเม็ชบอกว่าคงไม่มีทางหลุดไปได้แล้วจะเดินไปตามรถของทหารมาช่วยลาก ให้พวกเรารออยู่ในรถ แล้วราเม็ชก็รีบวิ่งไปที่ค่ายทหารที่ Chang La ที่อยู่ห่างไปเกือบ ๆ กิโลเมตร
ราเม็ชจากไปราวสิบนาที ก็มีรถบรรทุกอีกคันมาติดอยู่ข้างหลัง คนขับรถลงมาถามหาราเม็ชเราก็เลยบอกว่าเค้าไปที่ค่ายทหาร แล้วคนขับรถบรรทุกก็เดินตามไปอีกคน มาทราบทีหลังว่าคนขับรถบรรทุกเป็นเพื่อนกับราเม็ชนั่นเอง
ผ่านไปราวครึ่งชั่วโมงราเม็ชและคนขับรถบรรทุกกลับมา แต่ไม่มีรถของทหารมาช่วยลาก คราวนี้พวกเราและคนขับรถบรรทุกต้องลองช่วยกันเข็นรถอีกครั้งบนความพยายามท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บกว่าครึ่งชั่วโมง ในที่สุดพวกเราก็หลุดจากกับดักหิมะได้เสียที
เรามาแวะจิบชาร้อน ๆ กันที่ค่ายทหาร ตอนนี้แต่ละคนก็สั่นกันเป็นเจ้าเข้า พักเพียงครู่เราก็รีบเดินทางกลับสู่เมือง ดีที่บนรถมีฮีทเตอร์ก็คลายหนาวไปได้ แต่ความหิวนี่สิก็ได้แต่ควานหาขนมประดามีประทังความหิวกันไปได้บ้าง
บนเส้นทางวกวนบนภูเขาที่เรามองเห็นเมื่อเช้า มองกลับไปข้างหลังตอนนี้ก็จะเห็นเพียงดวงไฟคู่หนึ่งจากบรรทุกข้างหลัง ที่ค่อย ๆ เคลื่อนลงบนทางวกวน เมื่อลงมาจากภูเขาสู่หุบเขาเบื้องล่าง จันทร์กระจ่างก็ทำให้เห็นเงาของภูเขาหิมะสวยทาบเป็นฟ้าสีน้ำเงินเข้มยามค่ำคื่น ช่างสวยและเหน็ดเหนื่อยเสียนี่กระไร
ราวห้าทุ่มพวกเรากลับมาถึงที่พักกับเรี่ยวแรงที่เหลือเพียงน้อยนิด แล้วขอให้คุณซาลีมช่วยทำซุปร้อน ๆ เท่าที่จะมีให้สักคนละถ้วย และขอยกเลิกโปรแกรมที่จะไป Nubra valley ในวันพรุ่งนี้ เพราะกลัวว่ารถจะไปติดบนถนนที่สูงที่สุดในโลก แล้วพาลตกเครื่องที่จะไปศรีนาคาในสองวันถัดไป โดยพรุ่งนี้จะขอนอนตื่นสาย ๆ แล้วไปเดินเล่นในเมือง ส่วนวันสุดท้ายในเลห์พวกเราจะไปเที่ยววัดบนเส้นทางวัดลามายูรูกันแทน
ค่ำคื่นที่เหนื่อยล้าจบลงที่ซุปเห็ดใส่ไข่ร้อน ๆ กับความทรงจำในประสบการณ์แปลกใหม่ ทั้งหิมะตกครั้งแรกในชีวิต ลงไปจับกบบนถนนหิมะครั้งแรกในชีวิต และ การเข็นรถติดหิมะร่วม ๆ สามชั่วโมงครั้งแรกในชีวิต และ ถ้าเป็นครั้งสุดท้ายก็จะดี ถึงจะเหนื่อยแต่ก็เป็นประสบการณ์และความทรงจำที่ดีและสนุกมากมาย ขอตัวไปนอนเรียกพลังแล้วจะกลับมาเล่าตอนสามให้ฟังต่อไป .. ราตรีสวัสดิ์