เป็นกระแสอย่างแรงมากใน social network อย่างเฟซบุ๊ค สำหรับประโยคนี้ คือ "เรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่" หลาย คนเกิดความสงสัย ว่า ข่าวครูอังคณา ฟ้องครูอังคณา ไอ้ประโยคนี้ มันคืออะไร และความเป็นมามันเป็นอย่างไรกันแน่ ทางเวปรักจัง จึงล้วงลึกคำตอบแบบชัดแจ้งมาให้กับทุกคนกัน
เริ่มเรื่องนี้ เกิดขึ้นมาจาก เรื่องของเด็กมัธยมแห่งหนึ่ง ได้มีเด็กชายบอล ซึ่งเป็นหัวหน้าห้อง ม.1/9 ได้สร้างกลุ่ม เฟซบุ๊คขึ้นมา เพื่อใช้ติดต่อกันระหว่างเพื่อนในชั้นเรียนและคุณครู ติดต่อกันในเรื่อง การเรียน การบ้าน งานสอน งานกลุ่ม และคุณครูอังคณา ก็ได้อยู่ในกลุ่มด้วยเพื่อสั่งงานและดูแลความเรียบร้อย ความเหมาะสม ของเด็กๆ และคุณครูอังคณา ได้ตั้งกฎประจำกลุ่มเอาไว้ด้วย คือ
1. ห้ามใช้คำหยาบ
2. ห้ามมีพฤติกรรมเชิงชู้สาว
3. หากใครไม่มีเฟชบุ๊ก ก็ให้โทรแจ้งงานเพื่อนที่ไม่มีเฟชบุ๊กด้วย
ได้ คอยบอกกับนักเรียนว่า อะไรควรหรือไม่ควรในการใช้เฟชบุ๊ก และมักเตือนอยู่เสมอว่า โพสต์หรือพิมพ์อะไรลงไป ควรคำนึงถึงภาพลักษณ์ตัวเอง เพื่อนๆ และโรงเรียนด้วย เพราะสิ่งที่คุณทำลงไปมันเกิดผลกระทบได้ทั้งหมด
ซึ่งดูๆแล้ว ก็น่าจะเป็นไปในทางสร้างสรรค์และมีประโยชน์ แต่เหตุการณ์มันก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่อ
ขณะ ที่ เด็กชายบอล และเพื่อนในกลุ่ม กำลังใช้เฟชบุ๊กทำงานอยู่ แต่ เด็กชายโต๊ด เพื่อนร่วมห้อง ได้โพสต์สัญลักษณ์ "..." เยอะมาก จนทำให้ระบบค้าง และทำให้งานที่กำลังช่วยกันทำอยู่หายไป เด็กชายบอล หัวหน้าห้องและเป็นแอดมิน จึงลบ เด็กชายโต๊ดออกจากกลุ่ม
จึงทำให้ เด็กชายโต๊ด เกิดความขัดเคืองใจ อย่างมาก ว่าทำใม จึงโดนไล่ออกจากกลุ่ม และได้ทำคลิปขึ้นมา โดยอัดวีดีโอ และนำไปโพสต์ลง youtube โดยใช้ชื่อหัวข้อว่า "ก่อนเรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่ V1" สามารถไปค้นหากันดูได้ ซึ่งมีสองเวอร์ชั่น V1 และ V2 ดังนี้
และเมื่อ ด.ช.บอล ได้เห็นคลิปดังกล่าว จึงได้ออกมาแก้ต่าง ดังถ้อยคำดังต่อไปนี้ นี่คือคำพูดของ ด.ช.บอล “ผม บอลนะครับเรื่องมันมีอยู่ว่าผมเป็นหัวหน้าห้อง 1/9 ในกลุ่มมีอยู่ 28 คน แล้ว พงศธร (ในคลิป) เนี่ยเวลาเขาคุยงานกันก็ไม่ออกความเห็น แต่พอเวลาเขามีงานกันพงศธร ก็จะจุดๆๆๆๆ สักทีละร้อยจุดได้เพื่ออะไรไม่รู้
ก็รู้อยู่ว่าในเฟสตันแค่ 99 ข้อความ แล้วเขาเกินร้อยทีนี้มันก็ค้างสิครับงานก็หายแล้ว คนในกลุ่มเลยรวมความเห็นกัน แล้วบอกให้ผมที่เป็นแอ้ดมิน ไล่ออกจากกลุ่ม …… เรื่องมันก็เป็นอย่างนี้แหละครับ ทุกคนก็ดูกันและเองว่าใครถูกใครผิด” นั่นคือคำตอบของหัวหน้าห้อง ม.1/9 คือ ด.ช.บอล
"เรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่"
และแล้ว เรื่องนี้ ก็ถึงหูของ ครูอังคณา จนได้ ครูอังคณาจึงได้เรียกนักเรียนมาพูดคุยกันเรื่องนี้ และย้ำถึงกฎกลุ่มในเฟชบุ๊ก สรุปว่าทุกอย่างจบลงด้วยดี เด็กชายโต๊ด ก็กลับเข้ากลุ่ม ม.1/9 ได้เช่นเดิม" เรื่องจึงจบโดยแฮปปี้
แต่ แล้ว เรื่องที่คิดว่าจะจบ ก็กลับมีคนมาทำให้เกิดประทุขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เมื่อมีผู้แอบอ้างว่าเป็น ด.ช. บอล ด.ช.โต๊ด และครูอังคณา มาป่วน เพื่อความสนุกของตนเอง คุณครูอังคณา จึงฝากมาบอกว่า "ให้เลิกทำเสีย เพราะพวกคุณกำลังสนุกและวิพากษ์วิจารณ์อยู่บนความทุกข์ของคนอื่นอยู่ โดยเฉพาะเด็กนักเรียนชั้น ม.1 ที่ตอนนี้พวกเขาก็วิตกอยู่ไม่น้อย"
แต่ที่แน่ๆ คำฮิต ที่ฮิตเป็นไฟลามทุ่ง จะติดหู ชาวโซเชียลเน็ตเวิร์ค คือคำว่า เรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่ ไปอีกนาน
รูปบรรยากาศภายในห้อง ม.1/9 ที่กลับมาดีดังเดิม
ครูอังคณา คือใคร
ครูอังคณา เป็นครูประจำชั้น ม.1/9 เป็นครูที่ใจดี เป็นครูที่คอยพร่ำสอนแต่สิ่งดีๆให้นักเรียน และคอยเป็นที่ปรึกษาให้นักเรียนยามมีปัญหาต่างๆ และครูมักจะบอกนักเรียนว่า "ถ้าเกิดมีอะไรขึ้น ขอให้ครูได้รับรู้จากปากนักเรียนเอง อย่าให้ครูไปได้ยินจากคนอื่น ก่อนจะมาได้ยินจากปากนักเรียน" นั่นเองที่เป็นสิ่งทำให้เกิดประเด็น เรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่
สิ่งที่ไม่ชอบ ครูอังคณาจะไม่ชอบและรับไม่ได้ถ้านักเรียนในชั้นเรียนของตัวเองทะเลาะวิวาทกัน
คลิปสัมภาษณ์ ครูอังคณา โดยรายการทีวีช่องหนึ่ง เกี่ยวกับข่าวนี้