ทริปหัวใจเดินทาง # 36 : ตอน...เที่ยววัดเมืองดอกบัว

[LightHouse]

ทริปหัวใจเดินทาง # 36 : ตอน...เที่ยววัดเมืองดอกบัว

        จริง  ๆ ทริปนี้มีเป้าหมายที่สามพันโบก  แต่ไหน ๆ ก็มาเช้าที่เมืองอุบล  พวกเราก็เลยเริ่มภารกิจกินกันแต่เช้าที่ตลาดริมมูล  ตามลายแทงของอร่อยว่าที่นี่มีอาหารญวนแท้ ๆ และ ดั้งเดิม  พอไปถึงก็จับจองที่นั่งกันหน้าแผง  ไม่ว่าจะเป็นก๋วยจั๊บญวณ  โจ๊ก  ข้าวเกรียบปากหม้อ
        แต่ที่ได้รับความนิยมจากพวกเราสูงสุด  คือ ร้านเจ๊หลีปากหม้อเจ้าเก่า   ที่พวกรับจับจองที่นั่งหน้าแผงจนเต็มไปหมด  งานนี้เรียกว่าเจ๊มีอะไรดีเอามานำเสนอให้หมด    แล้วเช้านี้พวกเราก็ได้ลิ้มรสของอร่อยแบบญวนแท้ ๆ ตั้งแต่  ข้าวเกรียบปากหม้อ  ขนมเหนียว  หมูยอ ข้าวต้มหมู(เหมือนกับบ๊ะจ่างแต่ใส่ใส้หมู)  และ พิซซ่าญวน  ที่ดัดแปลงให้เข้ากับยุคสมัย  อิ่มอร่อยไปตาม ๆ กัน

[LightHouse]

        จากตลาดริมมูลขับรถผ่านทุ่งศรีเมือง    สถานที่จัดงานแห่เทียนพรรษาของชาวเมืองอุบล   ไม่นานก็มาถึงวัดทุ่งศรีเมือง   ที่มีหอไตรกลางน้ำที่สวยงาม สมบูรณ์แบบตามแบบฉบับไทยอีสาน   ว่ากันว่าที่นี่ได้รับการผสมผสานศิลปะจากช่างไทยอีสาน  ช่างลาว  และไทยภาคกลาง   จึงสวยสดงดงามแบบนี้   

         พวกเราก็เก็บภาพกันอย่างสุขใจ  หน้าเสียดายที่ภาพเขียนฝาผนังภายในหอไตรถูกทำลายเพราะน้ำฝน  ยังเหลือเพียงบางจุดเท่านั้น   ภายนอกหอไตรยังมีคันทวยรูปนาคที่ยังสมบูรณ์  มีรูปสลักเทพพนม  และ ลายสลักสัตว์มงคลรอบ ๆ ตัวหอไตร  โดยเฉพาะหน้าจั่วนั้นสลักไม้ไว้อย่างงดงาม   ดูกันได้เพลิน ๆ ไม่รู้เบื่อ

[LightHouse]

หอไตรกลางน้ำ วัดทุ่งศรีเมือง

[LightHouse]

        ไม่ไกลนั้นเป็นหอพระบาท   ที่ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่อ้อนช้อยงดงาม   และประดิษฐานหลวงพ่อ....   พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อันเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน   ในโอกาสนี้ท่านเจ้าอาวาสยังมาช่วยเล่าประวัติ และ อธิบายความหมายของสิ่งต่าง ๆ ให้พวกเราได้ฟังกัน 

[LightHouse]

        อย่างเช่นบันไดนาคที่เราพวกคุ้นเคยกันนั้น   ที่หอพระบาทแห่งนี้กลับเป็นบันไดนาคขี่หลังจรเข้   อันแฝงปริศนาธรรมไว้  โดยนาคเป็นตัวแทนฝ่ายความดี  ส่วนจรเข้นั้นเป็นตัวแทนฝ่ายความชั่ว   หากที่ใดมีธรรมะไว้ค่อยกำกับความชั่ว   ก็จะสงบเรียบร้อยประดุจเดียวกับที่มีนาคคอยกำกับความประพฤติของจรเข้นั่นเอง  นอกจากนี้ประตูของหอพระบาทสลักด้วยไม้เป็นลายเครือเถา  มีนกและกระแตไต่อยู่บนลายเครือเถาอย่างงดงามลงตัว

[LightHouse]

       จากวัดทุ่งศรีเมืองไม่ไกลพวกเราก็มาถึงวัดมหาวนาราม  ที่ประดิษฐานพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง ซึ่งมีความงดงามจนมีตำนานว่าพระอินทร์แปลงกายมาช่วยตกแต่งให้เสร็จเพียงชั่วข้ามคืน   และเป็นโอกาสอันดีที่ขณะนี้ทางวัดกำลังก่อสร้างวิหารหลังใหม่เพื่อประดิษฐานพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง  พวกเราเลยมีโอกาสได้ปิดทองลูกนิมิตรโดยทั่วกัน

[LightHouse]

        และไม่ไกลจากวัดมหาวนารามอีกเช่นกัน  พวกเราแวะชมสิม หรือ โบสถ์ วัดแจ้ง   ที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบอีสานแท้ ๆ อีกหนึ่งหลัง   ถึงแม้จะถูกทิ้งไว้อย่างรกร้าง  แต่ก็ยังคงความงามเอาไว้ให้เห็น  โดยเฉพาะลายสลักไม้ที่อ้อยช้อยนั้น  คงจะหาดูได้ยากในปัจจุบัน  และยังมีร่องรอยการปิดกระจกสีบนรูปสลัก  อย่างเช่นคันทวยรูปนาค  หรือ รูปสลักด้านหน้าของสิม   หากได้ชมครั้งยังสมบูรณ์อยู่นั้น  คงหาอะไรมาเปรียบเทียบความงามได้ยากทีเดียว

[LightHouse]

สิม หรือ โบสถ์ วัดแจ้ง   

[LightHouse]

ศิลปินเพลงจรที่วัดแจ้ง 

[LightHouse]

        สุดท้ายก่อนอำลาตัวเมืองอุบลด้วยการนมัสการเจดีย์พุทธคยาจำลอง  ณ วัดหนองบัว     ว่ากันว่าเจดีย์พุทธคยาเป็นเจดีย์ประจำปีเกิดของชาวปีมะเส็ง   ก็เลยได้กราบไหว้กันให้เป็นสิริมงคล   ได้ของแถมเป็นการเก็บภาพมหาเจดีย์กับท้องฟ้าใส ๆ  อิ่มบุญ อิ่มใจกันถ้วยหน้า   

[LightHouse]

วัดหนองบัว

[LightHouse]

        ทริปนี้เรามีเวลากันน้อยอยู่สักหน่อย  เลยเยี่ยมชมวัดได้เพียงสี่แห่งเท่านั้น   ยังพลาดวัดสำคัญ ๆ อย่าง  “พระบท วัดกลาง  พระบาง  วัดแจ้ง  หอไตร วัดทุ่ง “  รับรองคราวหน้าไม่พลาดแน่นอน

* ภาพหอไตรหนองขุหลุ และ ดอกบัวบา