From Dawn till Dusk ตอน จากบ้านเชียง ถึง คำชะโนด

[Joyful]

         อิ่มมื้อเช้ากึ่งมื้อกลางวันจากร้านตำนานทะเลบัวแดง  เรามุ่งหน้าสู่บ้านเชียงแหล่งอารยธรรมโบราณ 6000 ปี  ซึ่งหากเอ่ยชื่อบ้านเชียงทุก ๆ คนคงจิตนาการถึงภาชนะดินเผา  เขียนลายก้นหนสีแดงอิฐสวย ๆ หนึ่งเดียวในไทย และ หนึ่งเดียวในโลก
        จากบ้านเดียมผ่านทางหลวงชนบท(มาก ๆ)  พวกเราก็มาถึงพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง   เสียค่าเข้าชมคนละ 30 บาท  พวกเราก็ได้เดินชมประวัติความเป็นมา  และ ภาชนะดินเผา พร้อมทั้งหลุมขุดค้นจำลอง  ภายในอาคารนิทรรศการติดแอร์เย็นฉ่ำ   และที่นับว่าโชคดีมาก ๆ ก็คือ  อีกสองวันที่นี่จะปิดรับเสด็จพระเทพ  ซึ่งหากมาช้าเพียงแค่สองวันพวกเราก็จะอดเข้าชมแน่นอน

รวมภาพการเดินทาง

From Dawn till Dusk ตอน ทะเลบัวแดงบาน ณ หนองหานกุมภวาปี
http://www.tripandtrek.com/tntboard/index.php?topic=1444.0


From Dawn till Dusk ตอน จากบ้านเชียง ถึง คำชะโนด
http://www.tripandtrek.com/tntboard/index.php?topic=1446.0


From Dawn till Dusk ตอน เต่าเพ็ก ปะทะ ช้างกระ…จากอาคารทรงคุณค่า ทะลุมิติกู่เปือยน้อย
http://www.tripandtrek.com/tntboard/index.php?topic=1448.0

[Joyful]

        จากพิพิธภัณฑสถานพวกเราตามลายแทงหลุมขุดค้น  สู่วัดโพธิ์ศรีใน  ซึ่งแสดงหลุมขุดค้นจริงเมื่อปี 2515 ทำให้บ้านเชียงแห่งนี้เป็นที่รู้จักแก่ผู้คนภายนอก  ในเวลานั้นมีนักสะสมชาวต่างชาติเข้ามากว้านซื้อโบราณวัตถุไปจำนวนมาก   แต่หลังจากในหลวงและสมเด็จพระราชินี  เสด็จไปทอดพระเนตรชาวบ้านก็เปลี่ยนทัศนคติจากการขายของโบราณ  เป็นการอนุรักษ์ไว้เผื่อแผ่นดิน   
        ซึ่งจากการนี้พวกเราได้เยี่ยมชมบ้านไทพวน  ซึ่งมีการขุดค้นที่บริเวณบ้าน  แต่หลังจากที่ในหลวงเสด็จไปเยี่ยมชมแล้ว  เจ้าของบ้านเกิดความปิติจึงถวายบ้านแก่ในหลวง  ซึ่งพระองค์พระราชทานให้เป็นบ้านอนุรักษ์ให้ประชาชนได้เยี่ยมชมสืบมา  นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นพ้นแก่ชาวไทยเราทุกคน

[Joyful]

        ปิติอิ่มเอมใจกันแล้ว  มุ่งหน้าสู่อำเภอบ้านดุง  เพื่อชมดินแดนลี้ลับคำชะโนดดินแดนพญานาค  ซึ่งพี่ tooom ของเรารอคอยมาแสนนาน   คำชะโนดเป็นเกาะลอยน้ำ(ลอยน้ำได้จริง ๆ)  เนื่องจากเกิดจากเศษวัชพืชแห้งตายทับถมคล้าย ๆ กับการน้ำเศษวัชพืชมาปลูกผักของชาวอินเล ประเทศพม่า  จนต้นชะโนดสามารถจะเกิดบนนั้นได้    และที่ทำให้ที่นี่เป็นที่รู้จักกันทั่วประเทศ  ก็คือเหตุการณ์ผีจ้างหนังไปฉายที่คำชะโนดเมื่อปี 2538 นั่นเอง

[Joyful]

        ตามตำนานเล่าว่าพระยาศรีสุทโธนาคราช และ นาคินีศรีปทุมมา  มเหสี เป็นผู้ดูแลคำชะโนดแห่งนี้  ซึ่งเป็นประตูสู่เมืองบาลดาล  ส่วนต้นชะโนดเป็นต้นไม้ตระกูลปาล์ม  หน้าตาคล้ายต้นค้อมาก ๆ  ตำนานเล่าว่าเกิดจากการนำต้น มะพร้าว ต้นตาล ต้นหมาก มารวมกันจนได้ต้นชะโนด  พวกเรามาถึงที่นี่ฝนที่ตกหนักก็หยุดไปแล้ว  ตามปกติภายในคำชะโนดจะร่มครึ้มอับทึบ  มีกลิ่นของฉี่ค้างคาว  อากาศไม่ค่อยถ่ายเท  แต่โชคดีที่ฝนที่เพิ่งหยุดตกไปได้ชะล้างกลิ่นทำให้อากาศสดชื่นเย็นสบาย (โชคดีอีกแล้วแฮะพวกเรา)

[Joyful]

        สำหรับการเข้าชมคำชะโนดจะมีสะพานนาคสวยงามทอดยาวไปยังตัวเกาะ  ทุกคนต้องถอดรองเท้าเพื่อเป็นการเคารพแต่สถานที่  พอเข้าไปในตัวเกาะก็จะร่มครึ้มด้วยต้นคำชะโนดสูงเสียดฟ้า  ดูต้นใหญ่กว่าที่จิตนาการไว้เดิมมาก  ภายในมีศาลของพระยาศรีสุทโธนาคราช และ นาคินีศรีปทุมมา  ใกล้กันมีฆ้องใหญ่ที่เชื่อว่าใครลูบแล้วมีเสียงดังกังวาลจะโชคดี  ถัดไปอีกจะมีบ่อน้ำศักดิ์ที่ไม่เคยเหือดแห้ง และเชื่อว่าเป็นประตูเชื่อมสู่เมืองบาดาล 

        บ่ายคล้อยพวกเราขับรถรอบชมโดยรอบ  มองเห็นคำชะโนดอยู่กลางน้ำ  ใกล้ค่ำเต็มทีเลยตัดสินใจรอเก็บภาพแสงสุดท้ายที่คำชะโนดนี่เลย  เป็นว่าคืนนี้ก็จะกลับไปถึงโฮมสเตย์บ้านเดียมก็ปาเข้าไปสามทุ่มแว้ววววว 

[Asusing]

กะทัดรัดได้ใจความดีคับ

[nin]

อ่านแล้วเหมือนได้ไปด้วยตนเองเลย 

[นายซาไกทัดดอกฝิ่น]

คิดถึง  ส้มตำ  ปลาย่าง ข้าวผัด และแมลงวัน  หน้าวัด  ครับ พี่น้อง

[วิชุดา]

ชอบภาพถ่ายวิวธรรมชาติแบบนี้จัง    ต้นไม้ใหญ่ ดูร่มรื่น ไม่เหมือนในเมืองหลวง