สธ.เตือนเที่ยวหน้าหนาวระวังไรอ่อน ต้นเหตุไข้รากสาดใหญ่
นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงฤดูหนาว ประชาชนจำนวนมากเดินทางไปท่องเที่ยวสถานที่ธรรมชาติ เดินป่า หรือตั้งเต็นท์พักแรมในป่า ประกอบกับ ในช่วงวันที่ 17-18 พฤศจิกายนนี้ จะมีปรากฏการณ์ฝนดาวตกลีโอนิดส์ และวันที่ 13 ธันวาคม จะมีฝนดาวตกเจมินิดส์ คาดว่า จะมีประชาชนเดินทางไปพักแรม เพื่อชมปรากฏการณ์ดังกล่าวจำนวนมาก
ทั้งนี้ หากในเขตพื้นที่นั้นๆ เป็นแหล่งอาศัยของไรอ่อน หรือไรแดง ที่เป็นสาเหตุของโรคไข้รากสาดใหญ่ ซึ่งหากถูกกัดประมาณ 10-12 วัน จะมีไข้สูง ปวดศีรษะมาก คลื่นไส้ อาเจียน หนาวสั่น และปวดเมื่อยตามตัว ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ ตับและม้ามโต โดยผู้ที่ถูกไรอ่อนกัด ร้อยละ 30-40 จะมีแผลบุ๋มสีดำ ลักษณะคล้ายโดนบุหรี่จี้ ส่วนในรายที่มีอาการรุนแรงอาจมีอาการสมอง คอแข็ง จนถึงขั้นเสียชีวิตได้
อย่างไรก็ตาม หลังจากกลับจากการเที่ยวชมธรรมชาติภายใน 2 สัปดาห์ หากพบอาการดังกล่าว ให้รีบพบแพทย์ทันที พร้อมแจ้งประวัติการเที่ยวป่าให้แพทย์รับทราบด้วย
จากรายงานการเฝ้าระวังของสำนักระบาดวิทยา ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-31 ตุลาคม 2552 มีผู้ป่วยเป็นโรคไข้รากสาดใหญ่ เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลกว่า 4,197 ราย เสียชีวิตแล้ว 6 ราย โดยที่ภาคเหนือมีอัตราป่วยสูงที่สุด
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวอีกว่า หากจะกางเต็นท์พักแรมในป่า ควรทำบริเวณที่พักให้โล่งเตียน หลีกเลี่ยงการนั่งและนอนกับพื้นดินที่ติดบริเวณพุ่มไม้ ป่าละเมาะ หรือหญ้าขึ้นรก และควรแต่งกายให้มิดชิด ใส่กางเกงขายาวเสื้อแขนยาว ใส่รองเท้าและถุงเท้าให้มิดชิด และเมื่อกลับจากการท่องเที่ยวให้รีบอาบน้ำและซักผ้าให้สะอาดทันที
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 พฤศจิกายน 2552 14:30 น.