ขบวนขน ฝูงบินปะการังเพื่อทะเล จำนวน 15 ลำ เดินทางถึงภูเก็ตวันนี้ ททท.เตรียมเสนอขายในงานประชุมสมาคมดำน้ำโลกเชื่อสร้างแรงดึงดูดนักดำน้ำทั่วโลกเข้าภูเก็ตเหตุเป็นแนวปะการังเทียมแห่งแรกของโลกสร้างด้วยฝูงเครื่องบินจำนวน 10 ลำ
เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (20 เม.ย) ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต คึกคักไปด้วยประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาร่วมต้อนรับฝูงเครื่องบินปะการังเพื่อทะเล ซึ่งเดินทางมาจากจังหวัดลพบุรีด้วยขบวนรถเทรลเลอร์จำนวน 15 คัน บรรทุกตัวเครื่องบินและปีก โดยจังหวัดภูเก็ตร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดให้มีพิธีต้อนรับขึ้น ซึ่งมีนายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นประธาน ก่อนที่จะเคลื่อนขบวนไปยังท่าเทียบเรือน้ำลึกจังหวัดภูเก็ตเพื่อทำการประกอบตัวปีกเครื่องบินและทำฐานก่อนที่จะนำไปวางในทะเลบริเวณอ่าวบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ในวันที่ 5 พ.ค.2551 เพื่อสร้างเป็นแหล่งดำน้ำแห่งใหม่ของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งโครงการนี้เกิดจากความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆหลายหน่วยงานด้วยกัน อทิ อบต.เชิงทะเล กองทัพอากาศ จังหวัดภูเก็ต ททท. ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4ภูเก็ต สำนักงานอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมทรัพย์ฯ กองเรือภาค 3 สมาคมดำน้ำ มูลนิธิเพื่อทะเลไทย
นางสุวลัย ปิ่นประดับ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้ เขต 4 กล่าวถึงการเดินทางของฝูงบินปะการังมายังจังหวัดภูเก็ตว่า แหล่งดำน้ำในทะเลอันดามันเป็นแหล่งดำน้ำที่มีชื่อเสียงระดับโลก เป็นจุดมุ่งหมายปรายทางของนักท่องเที่ยวดำน้ำจากทั่วโลก โดยมีแหล่งดำน้ำที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น หมู่เกาะสิมิลัน หมู่เกาะสุรินทร์ เกาะตาชัย กองหินริเชริว เกาะราชา แหล่งดำน้ำเรือจมคิงส์ครุยเซอร์ แหล่งดำน้ำชาร์คปอย กองหินมูสัง หินม่วง หินแดง เกาะหลีเป๊ะ เกาะตะรุเตา ซึ่งในปี 2550 ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวดำน้ำเข้ามาในแถบอันดามันประมาณ 2 แสนคน จากประเทศเยอรมนี สแกนดิเนเวีย ฝรั่งเศส อิตาลี ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ทำให้เกิดรายได้ประมาณ 3 พันล้านบาท
จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามามากทำให้ปะการังธรรมชาติเสื่อมโทรมจึงจำเป็นที่จะต้องสร้างแหล่งปะการังเทียมขึ้นมาเพื่อรักษาแหล่งดำน้ำในทะเลอันดามัน ซึ่งการนำเครื่องบินมาทำปะการังเทียมก็เป็นแนวคิดหนึ่งที่หลายหน่วยงานร่วมมือกันจัดสร้างขึ้นซึ่งเครื่องบินที่นำมาทำปะการังไม่ได้มีเพียงลำเดียวแต่นำมาทำเป็นฝูงจึงเชื่อว่าเป็นปะการังเทียมแห่งแรกในโลกที่สร้างจากฝูงเครื่องบินที่ผ่านสมรภูมิรบถึง 10 ลำ
นางสุวลัย กล่าวต่อไปว่า สำหรับโครงการฝูงบินปะการังที่สร้างขึ้นที่จังหวัดภูเก็ตเชื่อว่าจะเป็นจุดดึงดูดให้นักท่องเที่ยวดำน้ำจากทั่วโลกเดินทางเข้ามาดำน้ำที่จังหวัดภูเก็ตมากขึ้นแน่นอน รวมทั้งจะสร้างรายได้จากการดำน้ำให้กับจังหวัดภูเก็ตเพิ่มขึ้นปีละไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท โดยในช่วงวันที่ 20-25 พ.ค.นี้ จะมีการประชุมสมาพันธ์ดำน้ำโลก ที่ประเทศอียิปต์ ในส่วนของการท่องเที่ยวจะนำแหล่งดำน้ำฝูงบินปะการังไปเสนอขายกับกลุ่มนักดำน้ำในงานดังกล่าวด้วยเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
ที่มา..Manager online..