หัวข้อ: Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata จ๋าฉันมาแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ กันยายน 04, 2011, 04:08:02 PM ดอยสูงเท่าใด ไม่เกินหัวเข่า คติคำสอนของชาวกะเหรี่ยงที่เราเคยได้ยินจากเนื้อเพลงเมื่อหลายปีก่อน เมื่อใดที่มีโอกาสก้าวย่างไปบนดอยสูง เมื่อความเหนื่อยล้าเกาะกินแข้งขาและแรงใจ คติคำสอนนี้ก็มักจะก้องมาในห้วงความคิดเสมอ ไม่ว่าดอยสูงมากน้อยเพียงใด ขึ้นชื่อว่า "ดอย" เดินขึ้นก็ต้องเหนื่อยเป็นธรรมดา แต่ไม่ว่าอย่างไร เมื่อสองเท้าพาเราก้าวสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ ในที่สุดก็ไม่มีดอยใดสูงเกินหัวเข่าของเราอีกต่อไป บนเส้นทางสู่ยอดเขาคินาบาลู แม้ไม่สูงชันยาวไกลไปกว่าภูเขาหลายลูกในเมืองไทย แต่เพราะการเดินบนที่สูงเหนือระดับน้ำทะเลกว่าสี่พันเมตร ในสภาพความกดอากาศต่ำและออกซิเจนเบาบาง แม้ย่างเพียงไม่กี่ก้าวกับน้ำหนักกระเป๋ากล้องที่คุ้นชินก็ทำให้เหนื่อยได้แทบขาดใจ ในบางครั้งสภาพอากาศก็ไม่อำนวยฝนที่พรำสายในระหว่างเดินทางก็ทำให้การเดินทางยากลำบากขึ้นกว่าเดิม แต่ในย่างก้าวที่เหน็ดเหนื่อยนั้น กลับพาเราเข้าไปพบพานกับความสวยงามอัศจรรย์ของพันธุ์ไม้ในป่าฝน และ พันธุ์ไม้บนที่สูงที่แปลกตามากมาย ยิ่งบนยอดเขาหินแกรนิตสูงชันนั้น ก็พาให้พวกเราไปยืนอยู่ ณ จุดสูงสุดสมญา หลังคาเอเชียอาคเนย์ ได้ดื่มดำกับทิวทัศน์กว้างไกล 360 องศา ที่งดงามหาที่ใดมาเปรียบ ณ ที่แห่งนี้จึงไม่ มีอะไรมาบรรยายได้ดีเกินกว่า ที่ ๆ พาให้นรกและสรวงสวรรค์มาพบกัน กระทู้ที่เกี่ยวข้อง Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน สวัสดีคินาบาลู - Poring hotspring http://www.tripandtrek.com/tntboard/index.php?topic=2221.0 Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว http://www.tripandtrek.com/tntboard/index.php?topic=2223.0 Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน พิชิตคินาบาลู http://www.tripandtrek.com/tntboard/index.php?topic=2225.0 Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน ลาก่อนคินาบาลู http://www.tripandtrek.com/tntboard/index.php?topic=2226.0 Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน ตามหาหม้อข้าวหม้อแกงลิงแห่งเมอซิเลา http://www.tripandtrek.com/tntboard/index.php?topic=2229.0 Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน ลิงจมูกยาว Proboscis ฝรั่งแก่บนเกาะบอเนียว http://www.tripandtrek.com/tntboard/index.php?topic=2230.0 ทริปหัวใจเดินทาง # 46 Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว หกโมงครึ่งวันใหม่ทุกคนก็ทะยอยมาที่ร้านอาหาร น้อง ๆ ที่ร้านกระตือรือล้นทักทาย สวัสดีครับ-ค่ะ กันตั้งแต่เช้า จิบกาแฟร้อน ๆ กินมื้อเช้าแบบ American breakfast กันง่าย ๆ วันนี้ส้มหล่นคนเดียวได้กินใส้กรอกไปตั้ง 6 ชิ้น เพราะเพื่อน ๆ คนอื่นไม่กินใส้กรอกเนื้อนั่นเอง ระหว่างมื้อเช้ารอบ ๆ ร้านอาหารบรรยากาศดีมีสายหมอกลอยอ้อยอิ่ง มีนกหลายตัวบินมาเกาะใกล้ ๆ ให้ได้ดูกันเพลิน ๆ ถึงจะมีเลนส์ความยาวแค่ 250mm เช้านี้ก็เก็บภาพนกมาได้หลายตัว เจ็ดโมงเช้ารถที่นัดไว้มารับไปส่งที่ Kinabalu National Park Headquarter (1,564 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล) ที่นี่เป็นจุดลงทะเบียนก่อนเดินทางขึ้นสู่ยอดเขา และพบกับไกด์ที่จะนำทางพวกเราขึ้นสู่ยอดเขาในวันนี้ ระหว่างนั้นก็เตรียมกระเป๋า และขอรับข้าวกล่องกลางวันอันประกอบด้วยแซนวิช ไข่ต้ม และ แอปเปิ้ล และ กล้วยลูกเล็ก ๆ อีกสองลูก เจ้าหน้าที่แจ้งว่าไกด์ของพวกเรายังเดินทางมาไม่ถึง ต้องรอพบไกด์ก่อนถึงเพราะไกด์จะต้องเป็นคนติดต่อรถ และ จัดการเรื่องลูกหาบที่จะแบกน้ำหนักของเราขึ้นเขาอีกที ผ่านไปพักใหญ่ ๆ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าไกด์ของเรามาไม่ได้ จึงจัดไกด์อีกท่านมาให้วันนี้พวกเราจึงได้ไกด์ชื่อ Mr. Fabianus (เฟเบี้ยน) ส่วนลูกหาบที่จะมารับภาระน้ำหนักกว่ายี่สิบโลก็คือน้องมิกกี้ เราแจ้งเส้นทางว่าต้องการเดินขึ้นทาง Timpohon gate และเดินลงทางด้าน Mesilau ซึ่งจะยาวกว่าขาขึ้นราวสองกิโลเมตร คุณเฟเบี้ยนแจ้งว่าหากในกลุ่มเรามีใครได้รับบาดเจ็บ หรือว่าเหนื่อยเกินกว่าจะลงทางเมอซิเลา หรือออกจากที่พักที่ Laban rata ได้ช้ากว่าเก้าโมงเช้าก็จำเป็นจะต้องกลับทางทิมโพฮอนเหมือนเดิม ซึ่งเราก็หวังว่าทุกคนจะยังมีแรงเหลือมากพอจะลงทางเมอซิเลา เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยพวกเราก็ออกเดินทางจาก Kinabalu National Park Headquarter ด้วยรถตู้ซึ่งใช้เวลาราว ๆ สิบห้านาทีสู่ Timpohon gate (1,866 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล) ซึ่งเป็นจุดที่จะเริ่มต้นเดินเท้าขึ้นสู่ที่พัก Laban rata จุดพักสุดท้ายก่อนจะขึ้นพิชิตยอดเขาสูงสุดของภูเขาคินาบาลู เมื่อถึงที่ Timpohon gate คุณเฟเบี้ยนอธิบายเส้นทางให้กับพวกเรา วันนี้เราจะต้องเดินเท้ากันประมาณ 5.8 กิโลเมตร ซึ่งระหว่างทางจะมีจุดพักเป็นระยะ ๆ และวันนี้พวกเราเริ่มต้นกันค่อนข้างสาย(08.50 น.) ฉะนั้นเราจะแวะพักทานมื้อกลางวันกันที่ Mempening shelter ที่กม. 3.5 แทนที่จะเป็นที่ Layang Layang Hut ที่กม. 4 ที่เหมาะสมกว่า เพราะมีศาลานั่งพักมากกว่า ก่อนเดินทางเราได้ยินเสมอว่าไกด์ที่คินาบาลูมักจะคอยเร่งให้เดินเร็ว ๆ เพื่อไปให้ถึงที่พัก เราจึงบอกคุณเฟเบี้ยนว่า We are fat & old lady, well take more time to reach Laban rata เราบอกคุณเฟเบี้ยนด้วยสีหน้าจริงจัง คุณเฟเบี้ยนปรายตามองพวกเราแว้บนึง ก่อนจะตอบกลับมาว่าไม่เป็นไรใช้เวลากันได้ตามสบาย คงนึกในใจว่าเค้าไม่ได้คาดหวังอะไรไปมากกว่าพวกเราจะไปให้ถึงที่พักให้ได้เท่านั้น หัวข้อ: Re: Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ กันยายน 04, 2011, 07:47:07 PM เมื่อเข้าใจกันดีแล้วพวกเราก็ออกเดินทางกันทันที จากประตูทิมโพฮอนช่วงแรกเส้นทางตัดลงเนินเขาเป็นระยะทางเกือบ 300 เมตร ทางช่วงต้นนี้มี Kinabalu Balsam ดอกไม้ในตระกูลดอกเทียนหน้าตาน่ารักเพราะมันมีหูคล้าย ๆ กับมิคกี้เมาส์เราเลยถือวิสาสะเรียกมันว่า Mickymouse Balsam เล่นเอาคุณไกด์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ไม่นานนักพวกเราก็ผ่านน้ำตก Carsons waterfall น้ำตกขนาดเล็กที่ไหลลงมาข้างทาง ใกล้ ๆ น้ำตกคุณเฟเบี้ยนชี้ให้ดู Dawsonia ต้นมอสที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งสูงราว ๆ หกนิ้วใหญ่มากจนยากจะเชื่อว่ามันคือมอส ใกล้กันมี Rhododendron stenophyllum ดอกกุหลาบพันปีสีส้มที่มีใบเล็กแหลมกำลังบานอยู่พอดี พวกเราจึงผ่านช่วงห้าร้อยเมตรแรกมาอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยอะไรเพราะแวะถ่ายภาพกันตลอดทาง
ก่อนจะถึง Kandis shelter กม. 1 ราว ๆ สองร้อยเมตรพวกเราเจอเข้ากับทางชันนรกที่เรียกเหงื่อทุกคนได้ทั่วหน้า แต่ก็ยังมีแรงเหลือมากพอที่จะไม่ต้องนั่งพักที่จุดพักแรก เราเดินทางกันไปเรื่อย ๆ เก็บภาพกันไปเรื่อย ๆ เพราะสภาพเส้นทางเดินง่าย ๆ ถ้าช่วงที่ชันก็จะทำเป็นขั้นบันไดไว้ตลอดทางทำให้เดินง่ายไม่ลื่น จึงสามารถเอากล้องออกมาคล้องคอถ่ายภาพได้ตลอด ช่วงนี้เราเริ่มพบกับหม้อข้าวหม้อแกงลิง กล้วยไม้ และ Rhododendron fallacinum กุหลาบพันปีสีส้มอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่มีใบอ่อนเป็นสีทองสุดสวย สิบโมงพวกเรามาถึง Uboh shelter กม. 1.5 แวะนั่งพักที่นี่กินผลไม้ให้ชื่นใจ เจ้ากระรอกภูเขาบอเนียวที่เคยได้รับอาหารจากนักท่องเที่ยวก็วิ่งออกมาจากพุ่มไม้อย่างคุ้นเคย เมื่อได้ผลไม้ก็วิ่งกลับไปนั่งกินอย่างสบายใจ และที่จุดพักนี้เราพบ Rhododendron fallacinum ต้นใหญ่กำลังออกดอกให้ได้ดูกันพอดี พักกันพอหายเหนื่อยก็ออกเดินทางกันต่อจากจุดนี้เราเริ่มพบบัวแฉกเฟิร์นดึกดำบรรพ์ ที่ค้นพบฟอสซิลอายุมากกว่า 400 ล้านปี หน้าตาในฟอสอย่างไรก็ยังดำรงสายพันธุ์มาได้อย่างนั้น เข้า กม. 2 สภาพป่าเริ่มชื้นมากขึ้นต้นไม้ถูกปกคลุมด้วยมอสเขียวครึ้ม และเริ่มมีต้นมหาสดำขึ้นมากมาย และเราก็โชคดีเจอกับ Rhododendron lowii กุหลาบพันปีสีเหลืองดอกใหญ่ที่คุณเฟเบี้ยนบอกว่าปกติไม่บานในช่วงนี้ ก่อนถึง กม. 3 เราเดินสวนกับคุณลุงอายุ 70 ปีท่านหนึ่งที่บอกพวกเราว่า If I can do it , You can do it เล่นเอาเรียกกำลังใจพวกเราได้อีกเป็นกอง ทันทีที่พวกเราถึง Mempening Shelter สายฝนก็กระหน่ำลงมาเลยได้โอกาสพักกินมื้อกลางวันกันไปพลาง ๆ ราวครึ่งชั่วโมงอิ่มมื้อกลางวันพวกเราก็ออกเดินทางกันต่อ แวะเก็บภาพกันมาเรื่อย ๆ เช่นเคย ถึง Layang Layang hut บ่ายสองโมงพอดีในสภาพที่เริ่มเหนื่อยอ่อนกันพอควร แวะพักกินแอปเปิ้ลและช๊อคโกแลตเติมพลังพวกเราก็เริ่มลุยกันต่อ จาก กม. 4 ที่ความสูง 2745 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล สภาพความสูงที่มีอ๊อกซิเจนเบาบางก็เริ่มแสดงผล พวกเราต้องเดินไปแล้วก็พักเหนื่อยกันไปเป็นระยะทางสั้น ๆ เรียกว่าไม่กี่ก้าวก็เริ่มจะต้องหยุดหายใจหอบกันแล้ว สภาพป่าช่วงนี้เริ่มกลายเป็นป่าแคระเพราะสภาพอากาศที่หนาวและลมแรง เราพบกับ Nepenthes villosa หรือ Villose Pitcher-Plant หม้อข้าวหม้อแกงลิงขนาดใหญ่สีสันสวยงาม และ มีขอบปากที่โดดเด่นมาก ๆ ที่ กม. 4.5 ฟ้าเปิดทำให้มองเห็นบ้านพัก Laban rata อยู่ไกล ๆ ในสายหมอก สะกิดกระโจมไฟไม่ให้ชี้ให้เพื่อน ๆ ในกลุ่มดูเป็นอันขาดเดี๋ยวใจจะฝ่อกันไปเสียก่อน เลยดึงความสนใจเพื่อน ๆ ไปที่ Rhododendron rugosum กุหลาบพันปีสีชมพูหวานแทน ก่อนสี่โมงเย็นพวกเราก็มาถึง Paka cave shelter กม. 5 ที่ความสูง 3,052 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เห็นได้ชัดว่าสภาพออกซิเจนเบาบางบนที่สูงนั้น ส่งผลกับพวกเรามากจริง ๆ เพราะหนึ่งกิโลเมตรที่ผ่านมา พวกเราใช้เวลาเดินเกือบสองชั่วโมงทีเดียว ที่นี่เราเจอ Rhododendron ericoides กุหลาบพันปีที่มีดอกเล็กที่สุดบนเขาคินาบาลูแห่งนี้ ที่มีดอกคล้าย ๆ กระดิ่งเล็กกว่านิ้วก้อย และ ใบเล็กแหลมราวกับเข็ม ไม่น่าเชื่ออีกเช่นกันว่าเจ้านี่จะไปอยู่ในตระกูลของกุหลาบพันปี ช่วง 800 เมตรสุดท้ายสองข้างทางมีต้นราสเบอรี่ป่า (Wild raspberry) ขึ้นเต็มไปหมด เราก็เลยเพลิดเพลินกับการเก็บราสเบอรี่รสชาติเปรี้ยวจี๊ดเข้าปาก จนลืมเหนื่อยลืมระยะทาง ประกอบกับช่วงสี่ร้อยเมตรสุดท้ายเก็บกล้องเข้ากระเป๋าไปแล้วเลยทำให้เดินทางได้เร็วขึ้นไปอีกโข จนในที่สุดก็มาถึงที่ Laban rata ได้ทันเวลาห้าโมงเย็นซึ่งขณะนี้ทั้งห้องอาหารกำลังคราคร่ำไปด้วยนักเดินทาง เราลงทะเบียนเรียบร้อย วันนี้เราได้พักห้องพักสำหรับ 10 คน นั่นแปลว่าจะมีคนอื่นมาร่วมห้องกับพวกเราอีก 4 คน(ความซวยกำลังจะไปเยือนพวกคุณภายในห้องพักเป็นเตียงสองชั้น เราเลยไปเลือกเตียงที่อยู่ด้านในสุด จากนั้นก็กลับมาหาโต๊ะนั่งสำหรับกินมื้อเย็นที่เป็นบุพเฟต์มื้ออร่อยใช้ได้ทีเดียว หกโมงเย็นเพื่อน ๆ ที่เหลือตามมาสมทบ พอดีกับช่วงเวลาห้องอาหารที่ผู้คนเริ่มเบาบางลงบ้างแล้ว เย็นนี้พวกเราค่อนข้างเพลิดเพลินกับอาหาร อาจเพราะใช้แรงกันมาทั้งวัน กอปรกับแซนวิชมื้อกลางวันก็ไม่อร่อยเลยสักนิด เลยเจริญอาหารกันถ้วนหน้า ยกเว้นที่ตุ่มที่เริ่มมีอาการแพ้ที่สูง ทำให้ผะอืดผะอมและเบื่ออาหาร ส่วนเพื่อน ๆ ที่เหลือให้กินยา Diamox เพื่อป้องกันอาการแพ้ความสูงไว้ก่อนแล้วก็ไม่มีอาการอะไร ทุ่มเศษพวกเราล้างหน้าแปรงฟันกันเรียบร้อย เปลี่ยนเสื้อผ้าอุ่นสบายประจำบนเตียงที่มีผ้าห่มหนา ๆ ให้ถึงสามผืน ถึงแม้บ้านพักจะไม่มีฮีทเตอร์ แต่อากาศก็ไม่ได้หนาวมากมาย ยกเว้นน้ำที่เย็นจับจิตยิ่งกว่าน้ำแช่ตู้เย็นเสียอีก คืนนี้พวกเราหลับกันไปพร้อมกับความเหนื่อย แล้วพรุ่งนี้เช้าเจอกันค่ะ หัวข้อ: Re: Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ กันยายน 04, 2011, 07:49:14 PM นกน้อยที่แวะมาทักทายพวกเราระหว่างมื้อเช้าที่ D'villa
หัวข้อ: Re: Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ กันยายน 04, 2011, 07:53:37 PM ยอดเขาคินาบาลูมองจากบริเวณ Kinabalu park headquarter มองเห็น Laban Rata ที่พักของพวกเราคืนนี้ ไกลลิบแบบนี้เดินกันทั้งวันแน่ ๆ
หัวข้อ: Re: Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ กันยายน 04, 2011, 07:56:13 PM ออกสตาร์ทที่ Timpohon gate ตอนเกือบ ๆ เก้าโมง
หัวข้อ: Re: Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ กันยายน 04, 2011, 07:58:32 PM Kinabalu Balsam ดอกเทียนคินาบาลูที่หน้าตาคล้าย ๆ มิกกี้เมาส์ เพราะมีหูใหญ่ ๆ สองข้างชัดเจน สามารถพบได้ตั้งแต่ Timpohon gate จนถึงสามกิโลเมตรของการเดินทาง
หัวข้อ: Re: Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ กันยายน 04, 2011, 08:06:28 PM กล้วยไม้ดอกแรกที่เจอบริเวณใกล้ ๆ Carson's fall และ Dawsonia มอสที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
หัวข้อ: Re: Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ กันยายน 04, 2011, 09:45:01 PM เดินกันไป เหนื่อยก็พักถ่ายรูปกัน
หัวข้อ: Re: Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ กันยายน 04, 2011, 10:12:38 PM Rhododendron stenophyllum ดอกกุหลาบพันปีสีส้มที่มีใบเล็กแหลม เจอได้ตั้งแต่ช่วงต้นของการเดินทาง
หัวข้อ: Re: Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ กันยายน 04, 2011, 10:15:53 PM Rhododendron fallacinum กุหลาบพันปีสีส้มอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่มีใบอ่อนเป็นสีทองสุดสวย
หัวข้อ: Re: Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ กันยายน 04, 2011, 10:18:12 PM หม้อข้าวหม้อแกงลิงหลากหลายสายพันธุ์ที่เจอได้ตลอดการเดินทาง
หัวข้อ: Re: Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ กันยายน 04, 2011, 10:20:43 PM ช่วงต้น ๆ ของการเดินทางเป็นป่าดิบชื้น
หัวข้อ: Re: Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ กันยายน 04, 2011, 10:24:24 PM ถึงแม้ไม่ใช่ช่วงฤดุกาลที่มีกล้วยไม้เยอะที่สุด แต่ก็มีให้ชมหลายชนิด
หัวข้อ: Re: Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ กันยายน 04, 2011, 10:25:58 PM ช่วงกิโลเมตรที่สอง มีต้นมหาสดำขึ้นหนาแน่น
หัวข้อ: Re: Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ กันยายน 04, 2011, 10:42:38 PM บางช่วงพบเฟิร์นบัวแฉกขึ้นหนาแน่นมาก
หัวข้อ: Re: Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ กันยายน 04, 2011, 10:44:15 PM ช่วงกิโลเมตรที่สาม พบเฟิร์นบัวแฉกใบมนขึ้นเป็นดงเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ กันยายน 04, 2011, 10:44:59 PM ถึงซะที กม. 3.5
หัวข้อ: Re: Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ กันยายน 04, 2011, 10:46:05 PM กระรอกภูเขาบอเนียว พบได้ทุกศาลาพัก
หัวข้อ: Re: Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ กันยายน 04, 2011, 10:46:40 PM เจ้าหอยทากสีสวย
หัวข้อ: Re: Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ กันยายน 04, 2011, 10:47:35 PM Rhododendron lowii กุหลาบพันปีสีเหลืองดอกใหญ่
หัวข้อ: Re: Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ กันยายน 04, 2011, 10:48:54 PM มอส เฟิร์น เห็ด
หัวข้อ: Re: Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ กันยายน 04, 2011, 10:50:01 PM ดอกไม้เล็ก ๆ ที่พบได้รายทาง
หัวข้อ: Re: Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ กันยายน 04, 2011, 10:51:11 PM อั้วดอกใหญ่ที่พบบริเวณ Layang Layang hut
หัวข้อ: Re: Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ กันยายน 04, 2011, 10:53:08 PM Lobelia Borneensis พืชเฉพาะถิ่นบอเนียว
หัวข้อ: Re: Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ กันยายน 04, 2011, 10:54:17 PM หม้อข้าวหม้อแกงลิง Villosa
หัวข้อ: Re: Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ กันยายน 04, 2011, 10:55:07 PM ป่าแคระที่ขึ้นบนเขาชันจากช่วงกิโลเมตรที่สี่
หัวข้อ: Re: Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ กันยายน 04, 2011, 10:57:29 PM ช่วงกิโลเมตรที่ 4.5 มองเห็น Gunting Lagadan hut ที่อยู่ใกล้ ๆ Laban Rata hut
หัวข้อ: Re: Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ กันยายน 04, 2011, 10:58:15 PM Rhododendron rugosum กุหลาบพันปีสีชมพูหวาน
หัวข้อ: Re: Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ กันยายน 04, 2011, 10:59:02 PM ในที่สุดก็มาถึงกิโลเมตรที่ 5
หัวข้อ: Re: Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ กันยายน 04, 2011, 10:59:41 PM Rhododendron ericoides กุหลาบพันปีที่มีดอกเล็กที่สุดบนเขาคินาบาลู
หัวข้อ: Re: Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ กันยายน 04, 2011, 11:00:35 PM ราสเบอรี่ป่า (Wild raspberry) เปรี้ยว ๆ ที่เดินเก็บกินเพลินจนลืมเหนื่อย
หัวข้อ: Re: Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ กันยายน 04, 2011, 11:01:29 PM จ้ำเดินช่วงสุดท้าย ในที่สุดก็มาถึง Laban Rata แบบหิวโซ
หัวข้อ: Re: Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ กันยายน 04, 2011, 11:02:39 PM อำลาด้วยภาพยามเย็นจาก Laban Rata มองเห็นหมู่เกาะมานูกันลิบ ๆ
หัวข้อ: Re: Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: Asusing ที่ กันยายน 05, 2011, 10:19:40 PM แจ่ม...ต่อมอยากพุ่งกระฉูดเลย แต่หม้ายเบี้ย เฮ้อปลง...ๆ
หัวข้อ: Re: Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: cybereak ที่ กันยายน 06, 2011, 04:12:55 AM อยากไปสุดๆ.. แต่ต้องขอฟิตร่างกายก่อนนะ
หัวข้อ: Re: Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: thai ที่ กันยายน 06, 2011, 06:34:56 PM สวย ท้าทาย น่าไปจริงๆครับพี่กุ้ง ;D
|