TRIP & TREK โลกกว้างของคนเดินทาง

กระดานข่าวสีเขียว => ศิลปวัฒนธรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: นายซาไกทัดดอกฝิ่น ที่ ตุลาคม 24, 2007, 11:13:23 PM



หัวข้อ: ชิงเปรต.....ปริศนาบนรีตแห่งประเพณีของถิ่นใต้
เริ่มหัวข้อโดย: นายซาไกทัดดอกฝิ่น ที่ ตุลาคม 24, 2007, 11:13:23 PM
เดือนสิบ  หลบบ้านนะไอ้บ่าว อีสาวเหอ...........
นี่คือถ้อยคำฝากฝังของพ่อแม่ พ่อเฒ่า แม่เฒ่า ที่ย้ำคำย้ำเตือนลูกหลานสะตอพลัดถิ่น..ให้กลับบ้านมาทำบุญเดือนสิบ..มันมีอะไรแฝงแอบในรีตวัฒนธรรมประเพณีที่ถูสืบทอดมาชั่วคน  จากรุ่นสู่รุ่น แม่ปัจจบันจะไม่ยิ่งไหญ่เท่าวันก่อนก็ตามที แต่บางที่บางแห่งยังถือว่าบุญเดือนสิบ คือ บุญใหญ่ที่ต้องจัดทำให้เอิกเกริงดังโบราณมา
..  ความทรงจำวัยเด็ก...งาน ชิงเปรต ในวัดไกล้บ้าน  มีโนราห์หนังลุง 7 วันเจ็ดคืน วันทำบุญไหญ่ชิงเปรต แข่งโนราห์กลางวัน...วิ่งดูโรงโน้นที่ โรงนั้นที่ตอนออกพราน ตอนเล่นละครตัวตลกออก.....ยิ่งตอนมีการตั้งร้านเปรตสูงเสาทำจากต้นหมากผิวเลื่อมไปด้วยน้ำมันที่ชะโลมจนชุ่ม....เสี่ยงเชียร์เสียงลุ้นว่าใครขึ้นได้ก่อนดังกลบเสียงโนราห์................นั้นคือ..ความทรงจำในวัยเยาว์

ขอบคุณภาพประกอบร้านเปรตเก่าจากพัทลุง.คอม


หัวข้อ: Re: ชิงเปรต.....ปริศนาบนรีตแห่งประเพณีของถิ่นใต้
เริ่มหัวข้อโดย: นายซาไกทัดดอกฝิ่น ที่ ตุลาคม 24, 2007, 11:30:10 PM
ครายังเด็กน้อย พ่อบอกว่า  แรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๐ **เป็นวันที่ยมบาลปล่อยให้เปรต หรือเปตชนขึ้นมาเยี่ยมลูกหลาน ** ในโลกมนุษย์เรา  เป็นเวลา ๑๕ วัน กลางคืนเด้กเราไม่หาญ(กล้า) ออกไปไหนกัน ที่วัดพระบวชใหม่มีเรื่องเล่ากันทุกวันว่าเห็นเปรตที่เดินหรือมาหยอกพระไหม่  ๑๕ วัน แห่งการปล่อยเปรต  จึงเป็นช่วงเวลาที่ลูกๆได้อยู่[u]ไกล้ชิด  พ่อแม่  ไกล้ชิดปู่ย่า พ่อเฒ่า แม่เฒ่า  ได้นอนคุยด้วยกัน  ได้รับฟังเรื่องราวความเป็นไปของวงศวานว่านเครื่อตัวเอง[/u]  ...
เมื่อถึงวันแรม ๑๕ ค่ำ ก็ถือว่าเป็นวันที่ปู่ย่าตายาย ต้องกลับยมโลก ลูกหลานก็ทำบุญเลี้ยงส่งอีกครั้งหนึ่ง
..........วันนี้จึงมีงานบุญไหญ่....


หัวข้อ: Re: ชิงเปรต.....ปริศนาบนรีตแห่งประเพณีของถิ่นใต้
เริ่มหัวข้อโดย: นายซาไกทัดดอกฝิ่น ที่ ตุลาคม 24, 2007, 11:37:15 PM
ก่อนทำบุญทำสิบแรกและสิบหลัง.......ลูกเต็มบ้านหลานเต็มเริน(เรือน)  แต่ก่อน การร่วมกันทำกิจกรรมทำขนมสำหรับทำบุญถือเป็นเรื่องไหญ่เพราะขนมมีขั้นตอนการทำหลายอย่างช่วยกันทำช่วยกันหา  เกิดกิจกรรมกลุ่มกระชับสัมพันธุ์สายใยพี่น้อง...ทำหนมลา หนมเพซำ หนมพอง ทำต้ม  ทำหนมค่อมหนมเทียน 
    ภาพเก่าๆ*เนอยู่*(ปัจจุบัน) เริ่มหายขนมทุกอย่างหาซื้อกันง่ายตามตลาดนัด  ความง่ายเริ่มกลืนกืนปมปริศนาที่คนเก่าต้องการ


หัวข้อ: Re: ชิงเปรต.....ปริศนาบนรีตแห่งประเพณีของถิ่นใต้
เริ่มหัวข้อโดย: นายซาไกทัดดอกฝิ่น ที่ ตุลาคม 24, 2007, 11:45:15 PM
ลุกหลานหลบเริน(กลับบ้าน) ถูกสั่งถูกใช้ ให้ไปปัดกวาด เช้ดถู ที่เก็บกระดูกพ่อแม่ตายายเพื่อเตรียมทำบุญให้  นี้คืออีกหนึ่งภูมิคิดที่ยึดติดลูกหลานไว้กับครอบครัว...ความ กตัญญูคือ  แบบพิพม์แห่งความดีที่หล่อหลอมให้คนเป็นคนที่เหนือกว่าเดรฉารมาตราบวันนี้


หัวข้อ: Re: ชิงเปรต.....ปริศนาบนรีตแห่งประเพณีของถิ่นใต้
เริ่มหัวข้อโดย: นายซาไกทัดดอกฝิ่น ที่ ตุลาคม 24, 2007, 11:53:03 PM
ตอนเด็ก จำได้ว่าสิ่งหนึ่งที่เราเฝ่าดูกันตั้งแต่ทางเข้าประตูวัดของการทำบุญเดือนสิบคือ...**หมับ** เด็กเราจะคอยดูว่าหมับของใครจะตกแต่ได้สวยงาม น่าแลขนาดไหน บางหมับตกแต่งสวยงาม อลังกาล พักหลัง เริ่มมีการติดธนบัตรกันด้วยก็ว่ากันไปตามที่จะทำ แต่ที่สำคัญวัดได้ประโยชน์ส่วนรวมได้ประโยชน์ก็ไม่เป็นไร
         


หัวข้อ: Re: ชิงเปรต.....ปริศนาบนรีตแห่งประเพณีของถิ่นใต้
เริ่มหัวข้อโดย: นายซาไกทัดดอกฝิ่น ที่ ตุลาคม 24, 2007, 11:57:56 PM
 *หมับ*ที่ตกแต่งมาสวยงามประกอบด้วยขนมลา ขนมพอง ขนมบ้า ขนมเบซำ(ดีซำ) นอกจากขนมดังกล่าวแล้ว ยังมีของแห้งที่ใช้เป็นเสบียงกรังก็จัดฝากไปด้วย เช่น ข้าวสาร หอม กระเทียม พริก เกลือ กะปิ น้ำตาล น้ำปลา กล้วย อ้อย มะพร้าว ด้าย เข็มเย็บผ้า ธูปเทียน นำลงจัดในหมรับ โดยเอาของแห้งรองก้นและอยู่ภายใน ส่วนขนมทั้งหลายอยู่ชั้นนอก ปิดคลุมด้วยผืนลาทำเป็นรูปเจดีย์ยอดแหลม หรือรูปอื่นแล้วแต่การประดิษฐ์ของผู้จัด ส่วนภาชนะที่ใช้ แต่เดิมนิยมใช้กระเชอหรือถาด ......................
ของในหมับจะนำไปทำบุญให้วัด และจะเตรียมของต่างๆไว้อีกชุดสำหรับไปตั้งที่*ร้านเปรต* หรือ*หลาเปรต*ด้วย
                ๑. ลา มีความหมายใช้แทนเสื้อผ้า
                ๒. พอง มีความหมายว่าเป็นเครื่องประดับ
               ๓. ขนมเบซำ (ขนมเจาะหู) ใช้แทนเงิน หรือสตางค์มีรูในสมัยก่อน
               ๔. ขนมบ้า มีความหมายว่า เงินเหรียญ
               ๕. ขนมเทียน ใช้แทนหมอนหนุน


หัวข้อ: Re: ชิงเปรต.....ปริศนาบนรีตแห่งประเพณีของถิ่นใต้
เริ่มหัวข้อโดย: นายซาไกทัดดอกฝิ่น ที่ ตุลาคม 25, 2007, 12:02:45 AM
"ร้านเปรต"  ซึ่งสร้างไว้กลางวัดยกเสาสูง ต่อมาในระยะหลัง ๆ ร้านเปรตทำเป็นศาลา หลังคามุงจากหรือมุงกระเบื้องแล้วแต่ฐานะของวัด บางถิ่นจึงเรียก "หลาเปรต" บนร้านเปรตจะมีสายสิญจน์วงล้อมไว้รอบและต่อยาวไปจนถึงพระสงฆ์ที่นั่งอยู่ในวิหารที่เป็นที่ทำพิธีกรรม โดยสวดบังสุกุลอัฐิหรือกระดาษเขียนชื่อของผู้ตาย ซึ่งบุตรหลายนำมารวมกันในพิธีต่อหน้าพระสงฆ์ บุตรหลานจะกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญไปยังเปรตชนที่เป็นบรรพบุรุษ เมื่อเสร็จพิธีแล้ว เก็บสายสิญจน์ ขนมต่าง ๆ จะถูกแบ่งออกส่วนหนึ่ง พร้อมกับของแห้งไว้ถวายพระ อีกส่วนหนึ่งให้
เปรตชนที่พอมี กำลังเข้ามาเสพได้
ในขณะเดียวกันผู้ที่มาร่วมทำบุญทั้งหนุ่มสาว เฒ่าแก่ และโดยเฉพาะเด็ก ๆ จะเข้าไปรุมกันแย่งขนมที่ตั้งเปรตด้วยความสนุกสนาน และเชื่อกันต่อไปว่าขนมเหล่านี้ถ้านำไปหว่านในสวนในนา จะทำให้พืชผลอุดมสมบูรณ์เพิ่มผลผลิตสูง โดยเฉพาะขนมเทียน บางแห่งนำไปติดไว้ตามต้นไม้ผลเพื่อให้มีผลดก หลังจากนั้น ก็มักมีผู้ใจบุญโปรยทาน โดยใช้เหรียญสตางค์โดยไปที่ละมากเหรียญ ตรงไปยังฝูงชน ที่เรียกว่า "หว่านกำพรึก" แย่งกันอย่างสนุกสนาน


หัวข้อ: Re: ชิงเปรต.....ปริศนาบนรีตแห่งประเพณีของถิ่นใต้
เริ่มหัวข้อโดย: นายซาไกทัดดอกฝิ่น ที่ ตุลาคม 25, 2007, 12:17:30 AM
ผมเน้นย้ำ* เปรตชนที่พอมี กำลังเข้ามาเสพได้ * ในกระทู้บนเนื่องจากคิดด้วยตัวเองว่า ต้องมีอะไรแฝงให้คิดไปมากกว่าที่พ่อแม่เล่าว่ายังมีเปรตหรือปู้ย่าตายายที่มีบาปหนักจนเข้าวัดไม่ได้  เข้าไปเสพไปกินที่ร้านเปรตข้างในไม่ได้ ต้องรอส่วนบุญอยู่ตามประตูวัด  จนลูกหลายต้องมาตั้ง ของไหว้ตามประตูวัดไห้ด้วย ..ในความคิดตัวยามนี้คงเป็นปริศนาสอนให้คนเห็นความต่างของการทำไม่ดี  ทำเล็ว  แม้แต่วัดยังเข้าไปไม่ได้  สอนให้เห็นถึงความลำบากสอนให้เห็นผลของการทำชั่ว...และอีกนัยต้องการสอนให้รู้จักการให้การเห็นอกเห็นใจผู้อืน เพราะนอกจากเปรตปู่ย่าตายายแล้ว  วิญญาณแร่ร่อน สัมพเวสี ก็จะได้รับผลบุญนี้ด้วย


หัวข้อ: Re: ชิงเปรต.....ปริศนาบนรีตแห่งประเพณีของถิ่นใต้
เริ่มหัวข้อโดย: นายซาไกทัดดอกฝิ่น ที่ ตุลาคม 25, 2007, 12:28:54 AM
แกงคั่ว........แกงแห่งสายสัมพันธุ์
[/b]
ตอบไม่ได้ว่าวันทำบุญเดือนสิบ ต้องแกงคั่ว  แต่ที่สำคัญ นี้คือภาะกิจของเด็กๆ ของลูกๆๆ  ของลูกเขย ของลูกสะใภ้..ต้องจัดปิ่นโต สำรับกับข้าว นำไปให้ ญาติผู้ไหญ่  เด็กๆเราญาติมากขี่รถถีบกันปวดน่อง   ขาไปแกงคั่วไก่หน่อไม้  ขามากปิ่นโตถูกเปลียนเป็นคั่วมะขือไส่ปลาแห้ง.....เปลื่ยนกันไปกันมา...........
................ภูมิปัญญาอันยิ่งไหญ่ พวกกัน  เกลอกัน พี่น้องกัน  สายสัมพันธุ์อันแน่นเหนียวถูกถักทอผ่านปม แห่งประเพณีผ่าน รูปนามธรรมแห่ง เปรต.
แต่สิ่งที่มองเห็นและแทรกแฝงอยู่ต่างหากที่เป็นแก่นจริงที่มองเห็นและจับต้องได้...เปรตถูกส่งมาจากนรกภูมิ  ลูกหลานกลับบ้าน อยางไหน คือจริงอย่างไหนคือ ธรรมสอน ลูกหลานไม่กลับบ้านก็ต้องอายเปรตอายผีกันบ้าง....เปรตมา  ญาติพี่น้องพบหน้า ทักทายอบอุ่นรู้จัก  ลูกๆๆหลานรู้จักพี่น้อง...แกงคั่วหลายขนาดสมรมอุ่นให้ร้อน......นั่งล้อมวงกิน......สุขใดเท่าแล้ว.........คน..ที่ยังมีลมหายใจอยู่....
...


หัวข้อ: Re: ชิงเปรต.....ปริศนาบนรีตแห่งประเพณีของถิ่นใต้
เริ่มหัวข้อโดย: นายซาไกทัดดอกฝิ่น ที่ ตุลาคม 25, 2007, 12:36:12 AM
........ขึ้นไปเก็บภาพมุมบนจาก หอฉันในวัด  เห็นกลอนดี เลยเก็บตกมาฝากันครับ
.มะมีอะไร อย่าคิดมาก.....5555555


หัวข้อ: Re: ชิงเปรต.....ปริศนาบนรีตแห่งประเพณีของถิ่นใต้
เริ่มหัวข้อโดย: Trekkathon ที่ ตุลาคม 25, 2007, 08:57:23 AM
หร่อย


หัวข้อ: Re: ชิงเปรต.....ปริศนาบนรีตแห่งประเพณีของถิ่นใต้
เริ่มหัวข้อโดย: JumboA ที่ กันยายน 24, 2009, 02:19:26 PM
นึกว่าใครท่านซาไกทัดดอกฝิ่นนี่เอง เห็นรูป ลง web manager เลยค้นมาเรื่อยๅๅครับ สบายดีไหมครับน้า คิดถึงครับ

จาก พ่อ น้อง ATOM & ITIM ;D


หัวข้อ: Re: ชิงเปรต.....ปริศนาบนรีตแห่งประเพณีของถิ่นใต้
เริ่มหัวข้อโดย: Asusing ที่ ธันวาคม 01, 2009, 05:43:53 PM
*หมับ*ที่ตกแต่งมาสวยงามประกอบด้วยขนมลา ขนมพอง ขนมบ้า ขนมเบซำ(ดีซำ) นอกจากขนมดังกล่าวแล้ว ยังมีของแห้งที่ใช้เป็นเสบียงกรังก็จัดฝากไปด้วย เช่น ข้าวสาร หอม กระเทียม พริก เกลือ กะปิ น้ำตาล น้ำปลา กล้วย อ้อย มะพร้าว ด้าย เข็มเย็บผ้า ธูปเทียน นำลงจัดในหมรับ โดยเอาของแห้งรองก้นและอยู่ภายใน ส่วนขนมทั้งหลายอยู่ชั้นนอก ปิดคลุมด้วยผืนลาทำเป็นรูปเจดีย์ยอดแหลม หรือรูปอื่นแล้วแต่การประดิษฐ์ของผู้จัด ส่วนภาชนะที่ใช้ แต่เดิมนิยมใช้กระเชอหรือถาด ......................
ของในหมับจะนำไปทำบุญให้วัด และจะเตรียมของต่างๆไว้อีกชุดสำหรับไปตั้งที่*ร้านเปรต* หรือ*หลาเปรต*ด้วย
                ๑. ลา มีความหมายใช้แทนเสื้อผ้า
                ๒. พอง มีความหมายว่าเป็นเครื่องประดับ
               ๓. ขนมเบซำ (ขนมเจาะหู) ใช้แทนเงิน หรือสตางค์มีรูในสมัยก่อน
               ๔. ขนมบ้า มีความหมายว่า เงินเหรียญ
               ๕. ขนมเทียน ใช้แทนหมอนหนุน
คำที่ถูกน่าจะเขียน * หมฺรับ* แปลว่า  สำรับ



หัวข้อ: Re: ชิงเปรต.....ปริศนาบนรีตแห่งประเพณีของถิ่นใต้
เริ่มหัวข้อโดย: นายซาไกทัดดอกฝิ่น ที่ ธันวาคม 01, 2009, 06:21:30 PM
*หมับ*ที่ตกแต่งมาสวยงามประกอบด้วยขนมลา ขนมพอง ขนมบ้า ขนมเบซำ(ดีซำ) นอกจากขนมดังกล่าวแล้ว ยังมีของแห้งที่ใช้เป็นเสบียงกรังก็จัดฝากไปด้วย เช่น ข้าวสาร หอม กระเทียม พริก เกลือ กะปิ น้ำตาล น้ำปลา กล้วย อ้อย มะพร้าว ด้าย เข็มเย็บผ้า ธูปเทียน นำลงจัดในหมรับ โดยเอาของแห้งรองก้นและอยู่ภายใน ส่วนขนมทั้งหลายอยู่ชั้นนอก ปิดคลุมด้วยผืนลาทำเป็นรูปเจดีย์ยอดแหลม หรือรูปอื่นแล้วแต่การประดิษฐ์ของผู้จัด ส่วนภาชนะที่ใช้ แต่เดิมนิยมใช้กระเชอหรือถาด ......................
ของในหมับจะนำไปทำบุญให้วัด และจะเตรียมของต่างๆไว้อีกชุดสำหรับไปตั้งที่*ร้านเปรต* หรือ*หลาเปรต*ด้วย
                ๑. ลา มีความหมายใช้แทนเสื้อผ้า
                ๒. พอง มีความหมายว่าเป็นเครื่องประดับ
               ๓. ขนมเบซำ (ขนมเจาะหู) ใช้แทนเงิน หรือสตางค์มีรูในสมัยก่อน
               ๔. ขนมบ้า มีความหมายว่า เงินเหรียญ
               ๕. ขนมเทียน ใช้แทนหมอนหนุน
คำที่ถูกน่าจะเขียน * หมฺรับ* แปลว่า  สำรับ


 ขอบคุณครับท่าน ;D ;D