TRIP & TREK โลกกว้างของคนเดินทาง

        หลังจากที่เทียวดอยแม่สลองจนทั่วจึงลงจากดอยตอนบ่ายสองโมง แต่ลงมาตามถนนสาย1234 จนมาถึงถนนสาย แม่จัน-ท่าตอน มองหลักกิโลเมตรแล้ว ไปท่าตอน กับไปแม่จัน ระยะทางพอกัน จึงปรึกษากับสมาชิก ว่าจะไปทางไหนดี ถ้าไปแม่จัน ก็คงต้องวิ่งเลยไปนอนที่ภูชี้ฟ้า แต่ถ้าไปทางท่าตอน ก็ต้องไปฝางและ ต้องไปนอนดอยอ่างขาง
        ซึ่งทั้งสองทางระยะทางพอๆกันและยังไม่เคยไปทั้งสองที่เหมือนกัน จนสมาชิกสรุปว่าไปดอยอ่างขางดีกว่า จึงหันหน้ารถไปทางแม่ตอน แม่อาย ระหว่างทางก็แวะถ่ายรูปไปเรื่อย ขับรถก็สบายๆ เพราะรถว่างมาก นานๆสวนมาคัน   

        แวะเติมน้ำมันที่ท่าตอน แล้วเข้าเซเว่น หาเสบียงทานบนรถสำหรับสมาชิก ที่นั่งไปเพราะถ้าไม่กินก็จะนอน ตื่นมาก็กิน เอิกๆๆๆ หุ่นแต่ละคนจึงผอมเพรียวลม
         เมื่อทุกคนพร้อมก็เดินทางต่อ ซึ่งขับมาไม่นานก็ผ่านแม่อาย แล้วก็มาถึงฝาง มีป้ายบอกทางไปดอยอ่างขาง ก็เลี้ยวตามป้ายไปเรื่อย ยิ่งขับไปก็ขึ้นเขาไปเรื่อย ทางก็เริืมชันมากขึ้น แถมเลี้ยวหักศอก วนไปวนมา (ใช้แค่เกียร์ หนึ่งและสองเท่านั้น) จนรู้สึกสงสารเครื่องยนต์เลยครับ แต่จะจอดก็จอดไม่ได้ แข็งใจลากๆเกียร์จนในที่สุดก็ไปถึงจนได้ แบบลุ้นทุกเนิน ยิ่งเนินสุดท้ายทั้งชันทั้งยาว ถ้าเดินคงจะเร็วกว่าขับรถแน่เลย
         เมื่อถึงดอยอ่างขางจุดกางเต้นท์ ก็แวะสอบถามเรื่องกางเต้นท์เรียบร้อย ก็ขับรถลงไปตลาดหน้าโคลงการหลวง เดินเลาะหาอาหารเย็นและ ชมตลาด (ถึงดอยอืางขางประมาณบ่ายสี่โมงครึ่ง)
         เมื่อเที่ยวจนได้เสบียงครบ และจนทั่วแล้วจึงกลับไปจุดกางเต้นท์ และช่วยกันกางเต้นท์ จนเสร็จจึงล้อมวงทานอาหาร และอากาศเริ่มหนาว กำลังพอดี ทุกคนดีใจมาก เพราะสองวันแรกเจอแต่ฝนเป็นส่วนใหญ่

         และวันนี้ทุกคนงดอาบน้ำ เพราะน้ำเย็นมาก ล้างหน้า ล้างเท้า แปรงฟัน แล้วก็นั่งสนทนาถึงแผนการเที่ยวของวันพรุ่งนี้ จนใครง่วงก็หนีไปนอนก่อน (ผมเองเป็นคนหนีไปนอนก่อนคนอื่น เพราะขับรถมาเหนื่อย ส่วนคนอื่นๆพลัดกันหลับในรถมาหลายตื่นจึงเข้านอนทีหลัง)
         จนเช้าอากาศเย็นมากผมตื่นมาเป็นคนแรก แม่บ้านตื่นตามมาและชวนกันไปยังจุดชมวิว เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ซึ่งขับรถไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร  ผมและแม่บ้านมาถึงก่อนใคร ยืนเล่นไม่ถึง ห้านาทีก็มีคนตามมาอีกหลายคน เช้านี้สดใสมาก มีทะเลหมอกด้วย
แต่มันมีเสาไฟฟ้าขวางหน้าอยู่ไม่สามารถหลึกเลี่ยงได้เลย

ต่อครับ

อย่าเอาอย่างผมนะครับถ่ายภาพพระอาทิตย์ หรือแสงมากๆ ผมใช้ความไวนะครับ ยกแล้วถ่ายทันทีแล้วหันหนี ไม่เล็งนาน เพราะจะทำให้ CMOS รับภาพของกล้องเสียได้

หลังจากชมพระอาทิตย์ขึ้นก็ใส่บาตรตรงนั้นแหละครับ มีพระและเณรมารอรับบิณฑบาตร (เขียนถูกไหมเนี่ย) บอกแลัวครับว่าพระกับผมไม่ค่อยถูกกัน เจอที่ไหนต้องถ่ายทุกที

สายหน่อยก็ย้อนกลับ พอดีผ่านพระธาตุดอยอ่างขาง จึงแวะกราบไหว้ สักการะอีกนิดหน่อย

จึงกลับมาที่เต้นท์ มาทำอาการเช้าทาน เมื่อทานจนอิืมแล้ว จึงเก็บเต้นท์และลงไปเที่ยวยังโครงการหลวงทันที เสียค่าเข้าชมคนละ 50 บาทครับ เข้าไปโดมแรกก็เจอดอกไม้นานาพันธ์ กำลังออกดอกสวยงามอร่ามเลยครับ

และที่นี่ก็ยังพบรองเท้านารีสวยๆอีกหลายต้น รวมทั้งกล้วยไม้สีสวยครับ

ต่อ

เสร็จจากโดมแรกก็ไปโดมที่สอง จะเป็นไม้พวกบอนไซ เมเบิล หม้อข้าวหม้อแกงลิง

โดมสองนี้นอกจากใบเมเบิลแล้วไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจ อต่ถ้าช่วงใบเมเบิลแดงน่าจะสวยมาก เพราะปลูกเรียงกันเป็นแถวเลย
       เมื่อเดินจนรอบจึงเดินทางต่อไปด้านในจะเป็นสวน 80 พรรษา แต่ก่อนถึงจอดถ่ายภาพคนทำสวนหลายรูป

คนชอบถ่ายรูปนะครับ ถ่ายไปเรื่อย หุๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แล้วก็เข้าสวน 80 พรรษา เจอยายทำกำไรอยู่จึงขอถ่ายรูป และให้เงินไป 20 บาทแกจะให้กำไรมาผมไม่เอา บอกให้ยายไปขายต่อเลย

และแล้วก็เข้าไปต่อที่สตอเบอรี่ ด้านใน ซึ่งยังไม่ออกผลมาก ออกเพียงนิดหน่อย แต่ก็ถ่ายมาได้หลายรูป

ถ่ายสักพักนึงมองข้ามถนนมา เห็นต้นอะไรไม่รู้ดอกกำลังบานเลยจึงเดินมาดู ใช่เลยมันคือดอกท้อนั่นเอง

ดอกท้อ

สุดท้ายก็วนออกมา พร้อมถ่ายรูปที่ป้ายเป็นที่ระลึก

แล้วก็เดินทางกลับ โดยขากลับได้ลงทาง อรุโณทัย และไปออกเชียงดาวซึ่งเป็นทางที่เล็กหน่อย แต่ลาดยางและไม่ชันเหมือนที่ขึ้นทางฝางครับ ระหว่างทางที่ลงก็แวะถ่ายรูปไปเรื่อย ไม่รีบไม่ร้อน

ถึงบ้านเที่ยงคินพอดี

ขับรถเก่งจังเลยพี่  นี่ถ้าได้ไปอ่างขางช่วง ธ.ค. ดอกไม้ตรึมมาก ๆ พี่  ปีที่แล้วพาน้อง ๆ ขึ้นไปเดือนตุลาไม่มีดอกไม้เท่าไหร่เลย  แต่เดินทางแบบพี่สุดยอด ๆ ๆ

 ;D ;D ;D สุดยอด   ดอยอ่างขาง   แหร่มจิงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

สุดยอดทุกภาพเลยครับ....อึดจริงๆ