ทันทีที่หัวเรือกระแทกคลื่นลูกแรก
หัวเรือเชิดขึ้นเล็กน้อย แรงน้ำส่งเรือไปทางด้านขวาอย่างรวดเร็ว
"ขวาหนัก ๆ ๆ" เสียงพี่น้อยตะโกนแข่งกับเสียงสายน้ำ
กรรมของคนนั่งกราบขวาอีกแล้ว พวกเรากราบขวาจ้วงพายลงในน้ำเต็มกำลัง หัวเรือเบนจากก้อนหินด้านขวาแบบเส้นยาแดงผ่าแปด
"เอ้า ซ้าย ขวา พาย"
คราวนี้พวกเราก็จ้วงกันสุดฤทธิ์ เรือยางพาเรากระเด้ง กระดอน
ไปตามแรงกระแทกของลูกคลื่น ทันทีที่
หลุดจากแก่ง ทุกคนประสานเสียง
เฮลั่นคุ้งน้ำ
"เดี๋ยวพายเข้าขวาครับ
เข้า
ขวา" พี่น้อยสั่ง พวกเรานำเรือทวน
น้ำเข้าจอดฝั่งขวาของสายน้ำ เพื่อ
รอถ่ายภาพเรือลำต่อๆไปลงแก่ง เรือ
สี่ลำที่เหลือลงแก่งได้อย่างสบาย
เมื่อเรือทุกลำลงแก่งไป
เรียบร้อยเรารีบเก็บกล้องแล้วพาย
ตามพรรคพวกไปเพื่อจะไปดักถ่าย
ภาพที่แก่งเสือเต้น
ระหว่างนี้เราเจอแก่งเล็ก
ๆ
อีกหลายแก่งที่เรียกเสียงกรี๊ดและ
เสียงเฮจากพวกเราได้ตลอด
ในที่สุดเราก็มาถึงแก่งเสือเต้น
ที่เห็นยอดคลื่นแตกฟองขาว ๆ อยู่เบื้อง
หน้า มีก้อนหินใหญ่อยู่กลางลำน้ำ
ที่พี่น้อยกำชับนักหนาให้ระวังเพราะ
ถ้าเรือเข้าไปกระแทกหินมีสิทธ์ลง
ไปลอยคอกันทั้งลำ
"เดี๋ยวเราจะเข้าเฉียดหินด้าน
ซ้ายนะครับ ลงข้าง ๆ ก้อนหินเลย
เพราะเข้าร่องขวาน้ำจะพัดเราไป
กระแทกฝาหินด้านขวา เดี๋ยวลง
แก่งแล้วซ้ายพายหนัก ๆ เลยนะครับ
ไม่งั้นเราได้เทกระจาดกันแน่ ๆ " เสียงพี่น้อยสั่ง
ทันที่พี่ให้สัญญาณพร้อม พวกเราก็พายส่งหัวเรือเข้ากระแทกคลื่นสูง
ๆ หลายลูก จนเกือบ ๆ ถึงก้อนหินกลางน้ำ
"เอ้า ซ้ายหนัก ๆ ๆ "
คราวนี้พวกเราที่อยู่กราบขวายิ้มได้
ฝั่งซ้ายก็ตั้งหน้าพายเพื่อหักหัวเรือไปด้ายซ้ายหลบก้อนหิน แล้วเราก็พาเรือเฉียดหินไปอย่างที่พี่น้อยบอกจริง
ๆ น้ำส่งพวกเราไปกระแทกคลื่นอีกสองสามลูก ก่อนจะหลุดจากแก่ง
พวกเราจ้ำเข้าฝั่งด่านขวาเพื่อเตรียมถ่ายภาพเช่นเคย
แล้วเรือทุกลำก็ผ่านแก่งไปได้อย่างปลอดภัยทุกลำ มาถึงตรงนี้พวกเราเริ่มที่จะพายคล่องและพร้อมเพรียงกันมากขึ้น
แก่งใหญ่ต่อมาที่เราเจอคือ
แก่งไฮจ้ำ แก่งระดับ 3-4 ที่มีก้อนหินกลางลำน้ำ และมีสายน้ำทิ้งตัวลงสูงเกือบเมตร
ถ้าช่วงน้ำเยอะถือว่าเป็นแก่งอันตรายอีกแก่งที่ต้องระวัง
เพราะด้านล่างของสายน้ำทิ้งตัว จะกลายเป็นไฮโดรขนาดใหญ่ ที่คว่ำเรือมานับไม่ถ้วน
แต่ครั้งนี้พี่น้อยสั่งให้พวกเราเฉียดหินเข้าร่องน้ำซ้าย
แล้วช่วยกันพาย ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี รวมทั้งเรือสี่ลำที่เหลือ ไม่มีการเทกระจาดที่นี่มีแต่เสียงกรี๊ดอย่างสนุกสนานเท่านั้น
เราผ่านแก่งเล็ก ๆ อีกหลายแก่ง
พี่น้อยออกปากชมว่าพวกเราพายพร้อมเพรียงกันดี แต่ทั้งพี่หนาน-พี่น้อยยังย้ำไม่ขาด
ว่าวันนี้แค่เด็ก ๆ
เกือบๆสี่โมงเย็นพี่น้อยก็กระตุนพวกเราอีกครั้งเมื่อเรือกำลังจะถึงแก่งสบห้วยปึ่ง
พ้นจากแก่งมาไม่ไกลนัก เราเห็นสะพานแขวนพาดระหว่างลำน้ำ
ที่ชาวบ้านห้วยลอยทำไว้ พี่น้อยบอกว่าเราจะพักแคมป์วันแรกที่หาดทรายถัดไปจากสะพาน
พวกเราช่วยกันลำเลียงสัมภาระขึ้นฝั่ง
พี่เสือชี้แจ้งว่ามีน้ำตกเล็ก ๆ อยู่ฝั่งตรงข้าม ใครต้องการไปอาบน้ำที่นั่นก็ได้
โดยช่วยกันพายเรือข้ามไป หรือใครอยากจะอาบในแม่น้ำก็ตามสะดวก
ส่วนห้องน้ำมีจัดไว้ให้แล้วสองห้องถัดจากแคมป์ไปทางทิศใต้
เราเลือกที่จะอาบน้ำในแม่น้ำ
เพราะถึงสีน้ำจะขุ่นอยู่บ้าง แต่ก็แค่ตะกอนดินไม่ได้มีสิ่งปฎิกูลใด ๆ ตัวเปียกมาครึ่งวันได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแห้ง
ๆ คงจะมีความสุขไม่น้อย ว่าแล้วก็ไปยืมกระป๋องจากพี่น้อยมาตักน้ำอาบใกล้ ๆ แคมป์นั่นเอง
ตอนนี้นายหัว-นายท้ายวางพาย
มาช่วยกันจับตะหลิว หุงข้าวทำกับข้าวกัน เป็นอีกทริปที่มีหน้าที่เที่ยวอย่างเดียว
มีคนจัดการให้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นกางเต็นท์หรือทำกับข้าว เราก็เลยงัดเอาสมุดบันทึกมาเขียนบันทึกฆ่าเวลา
|
|
|
|
|
|
|
|