:: TRIP & TREK :: โลกกว้างของคนเดินทาง ::
:: TRIP & TREK :: โลกกว้างของคนเดินทาง :: Traveller's WorldWide ::
   เรื่องเล่าคนเดินทาง
   เทคนิคแคมป์
   เรื่องเล่าติดแสตมป์
   นานา..น่าลอง
   ศิลปวัฒนธรรม
   เรื่องเล่าจากราวไพร  
   สมุดเยี่ยม
   มองผ่านเลนส์
   ทริปเดินทาง ปี 54  
   แนะนำตัว
สมัครสมาชิกรับข่าวสาร ฟรี!!





:: ศิลปวัฒนธรรม :: เพื่อส่งเสริมสำนึกรักศิลปวัฒนธรรมไทย ::

   1  2  3 
2
Copyright © 2002-2005 by TripandTrek.com All Rights Reserved    

        รั้นจะเหมาไปเขาก้อคิดที่ 400 บาท เราก้อตัดสินใจ OK ครับ ไม่ใช่ไปกะรถเหมานะรับ แต่เดินครับ 55555
         ทางเดินเป็นถนนลูกรังขนาดรถวิ่งได้คันเดียว ระยะทางคงประมาณสัก 10 กิโลครับ เดินได้สักกิโลกว่าๆ ก้อมีรถชาวบ้านผ่านสอบถามเขาจะเข้าไปหมู่บ้านข้างในประมาณ 3 โล จึงขออาศัยไปด้วย อย่างน้อยก้อลดระยะทางและกำลังที่จะต้องใช้ไปบ้างครับ
        พอลงรถ พี่คนขับถามว่าเราจะเดินไปไหนกัน เราบอกว่าจะไปนอนที่อ่างเก็บน้ำโป่งก้อนเส้า พี่เขาก้อบอกว่าน้องมันอีกไกลนะ อย่างน้อยๆก้อต้องมี 7 กิโล จะเดินยังไงไหว ผมก้อได้แต่ยิ้มแห้งๆ และตอบว่าก้อคงเดินไปเรื่อยๆน่ะครับ
         เราก้อเดินไปเรื่อยๆพร้อมกับความเหนื่อยล้าที่ขาและไหล่ รู้สึกว่าทำไมของมันหนักขึ้นเรื่อยๆ เดินผ่านทุ่งนา ไร่กล้วยมาประมาณ 3 โลแล้วมั้งจนถึงทางแยก เราก้อเลี้ยวไปตามเส้นที่จะไปอ่างเก็บน้ำ
         สักพักนึงได้ยินเสียงรถมาจากข้างหลัง เห็นรถกะบะสีแดงบรรทุกคนเต็มหลังรถ แต่คนขับคงจะกรึ่มนิดๆ เพราะเห็นหน้าแดงแถมถอดเสื้อขับ แต่ก้อลองโบกดู
        พี่เขาก้อจอดสอบถามแล้วแกจะผ่านไปทางแยกขึ้นอ่างเก็บน้ำ ก้อขออาศัยติดรถพี่เขาก้อให้ขึ้นด้านหลังเลยเบียดหน่อยนะ ไม่เป็นไรครับ ยังไงก้อดีกว่าเดินครับ 555

         นั่งไปเรื่อยๆผ่านทางเข้าน้ำตกเจ็ดคต (เป้าหมายวันสุดท้ายของผม) จนมาถึงแยกเข้าอ่างเก็บน้ำ ก้อลงเดินไปที่ร้านค้ารอโบกรถที่จะขึ้นอ่างเก็บน้ำรออยู่ไม่นานนักก้อโบกขึ้นไปถึงจนได้ เฮ้อ เป้าหมายเราสำหรับวันนี้ทำไมมันทุลักทุเลขนาดนี้
         แต่ก้อไม่ผิดหวังครับ อ่างเก็บน้ำ สวย สงบ คนไม่มากนัก ไม่มีร้านค้า ที่ทำการยังใหม่อยู่เลย และกะลังก่อสร้างบ้านพัก เราก้อเลือกทำเลแล้วรีบกางเต้นท์และฟลายชีต เพราะเห็นท่าเหมือนฝนจะตก
        แล้วก้อจัดแจงก่อเตาเตรียมทำอาหารสำหรับเย็นนี้ก้อเตรียมตัวทุบเสบียง ทั้งปลาราดพริก หอยลายกระป๋อง หมูแดดเดียว ไข่เค็ม แต่รอบนี้พลาดใส่น้ำเยอะไปเลยต้องกินข้าวแฉะครับ แถมผมยังพลาดฟันฟืนเข้านิ้วตัวเองเลือดกระฉูดเลย
         ไปที่ทำการขอยา เจอน้องจนท.ผู้หญิง ถามว่ามาทำอะไร พอบอกขอยาทำแผล พอเปิดแผลให้น้องแกดูแกหน้าซีดบอกว่า พี่แผลลึกด้วย แล้วรีบเอายากับอุปกรณ์ทำแผลมาวางไว้ที่โต๊ะแล้วเดินหนีไปทางอื่น ปล่อยให้ผมยืนงง อ้าว ให้ผมทำแผลเองหรือครับ 5555
         ก้อเลยทำแผลเองตามมีตามเกิด(ไม่อยากไปเที่ยวโรงพยาบาลวันสิ้นปีนี่ครับ) ทำแผลเสร็จแล้วก้อยืนคุยข้อมูลจุดท่องเที่ยวต่างๆ เช่น น้ำตกเขาแคบ บุยายค้อ เขาว่าถ้าเข้าไปก้อได้ใช้เวลาประมาณ 3 วัน 2 คืน
         แล้วถามเรื่องระยะทางการเดินขึ้นน้ำตกโกรกอีดกที่ป้ายเขียนไว้ 2.1 กม. เขาบอกว่าน่าจะประมาณ 3-4 กม. ป้ายที่เขียนไว้น้อยกว่าความเป็นจริงสงสัยจะกลัวนักท่องเที่ยวรู้ระยะทางจริงแล้วจะไม่อยากเดินเลยเขียนให้ใกล้ไว้ก่อน

 

     
        เสร็จแล้วก็ออกมาอาบน้ำเรียบร้อย ก้อนั่งจิบวิสกี้โทนิคกระป๋องกะบาคาดี้ขวดเล็ก กะบรรยากาศสบายๆ มีลมพัดตลอดเวลา แต่เริ่มมีเมฆส่อเค้าฝนจะตกผิดกะหัวค่ำที่ดาวเต็มท้องฟ้า และลมเริ่มพัดแรงขึ้นจนเต้นท์โดมของกลุ่มด้านหลังซึ่งไม่ตอกสมอบกปลิวตามลมไป
         เราก้อเลยต้องปรับฟรายชีตให้ปิดตัวเต้นท์มิดชิดกว่าเดิม แล้วก้อเข้าเต้นท์เตรียมตัวพักผ่อน และคิดพลางในใจ เฮ้อ!วันนี้ช่างเป็นวันที่ยาวนาน และสาหัสพอดูครับ
        ตื่นเช้ามาเปิดประตูเต้นท์ โชคดีจังได้เห็นแสงสีส้มของดวงอาทิตย์ที่กำลังขึ้นพ้นจากหลังเขาตัดกับท้องน้ำในอ่างเก็บน้ำสวยงามจริงๆ หันหลังมาคว้ากล้องเพื่อถ่ายภาพ ก้อไม่ทันสะแล้ว ขึ้นมาพ้นน้ำแล้ว แต่ไม่เป็นไร แค่นี้ก้อถือว่าคุ้มแล้วครับ
         จัดแจงหาอะไรกินมื้อเช้าก้อขนมปังกับทูน่าสเปรท เหมือนเดิม แต่โชคดีที่เต้นท์ข้างหน้าเอาไส้กรอกชีทลูกใหญ่มาให้ 7 ชิ้นแน่ะ (เมื่อคืนผมไปช่วยเขากางเต้นท์น่ะครับ) พร้อมกะหรี่พัฟและน้ำอีก 1 ขวด นี่ล่ะครับ น้ำใจคนไทยที่ไม่เคยเหือดหายไปจากสังคมบ้านเรา


        ต่เดินไปสักพักได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์มาจากด้านหลัง แต่เราก้อไม่อยากคาดหวังอะไรมากนัก
        แต่ปรากฏว่าพี่ที่อยู่ด้านในจะออกไปซื้อของและพี่ที่ขับรถสวนเข้าไปบอกว่ามีนักท่องเที่ยวเดินจะออกไปข้างนอก พี่เขาเลยแวะรับและพาไปส่งแยกเส้นที่จะไปโป่งก้อนเส้า แถวบ้านผู้ใหญ่สน ก้อเลยแวะกินน้ำเย็นๆและซื้ออาหารเพิ่มพลัง แฮ่ๆๆ ก้อขนมถั่วตัดบ้านเราน่ะครับไว้กินระหว่างทาง รอรถที่ผ่านนานพอสมควร ที่โบกได้ก้อไม่ได้ไปเส้นทางนี้