เข้าหน้าฝนไม่นาน ก็มาถึงฤดูน้ำหลากอีกแล้ว หลายปีก่อนเคยดูรายการโทรทัศน์ที่มีกิจกรรม ล่องแก่ง ช่างดูสนุกสนานและตื่นเต้นจริง ๆ ทำให้อยากลองล่องแก่งดูบ้าง แต่หลังจาก
ชั่งใจแล้วชั่งใจอีก ก็ข่มใจให้ลืมความกลัวกับ
กระแสน้ำเชียวกราก ไม่ได้...

พอพูดถึงการล่องแก่งเราก็มักจะนึกถึงภาพ ผู้คนสวมหมวกกันน๊อค เสื้อชูชีพถือพายด้วย
ท่าทางทะมัดทะแทง นั่งบนเรือยางสีสดใส ที่กำลังพยายามเอาชนะสายน้ำบ้าคลั่งข้างหน้า.

มารู้จักกับสายน้ำที่สามารถล่องแก่งได้ในบ้านเรา

-ลำน้ำปาย จ.แม่ฮองสอน โดยจะเริ่มล่องจากแม่น้ำของ ไปออกที่แม่น้ำปาย จ.แม่ฮ่องสอน กินระยะเวลา 2วัน โดยจะพักระหว่างทางหนึ่งคืน ความยากของแก่งจะอยู่ที่ระดับ 3-4 สามารถล่องได้ตั้งแต่ กรกฎา-มกราคม ของทุกปี
จุดเด่นของของแก่งนี้คือ ธรรมชาติ ที่สดงาม มีน้ำตกให้พบระหว่างทาง และมีแก่งหลายแก่งให้พจญภัย

-ลำน้ำว้า จ.น่าน แก่งน้ำว้าจะมีระยะทางประมาณ 18 กม. ใช้เวลาล่อง4-5ชั่วโมงความยากง่ายของการล่อง
แก่งจะขึ้นกับระดับน้ำในแต่ละฤดูกาล ฤดูผน พค.-กย. ระดับ 3-5 ฤดูหนาว กย.-กพ. ระดับ 3-4 ฤดูร้อน กพ.-พค. ระดับ 2-3 โดนจะมีหลายแก่งให้ผ่าน เช่น แก่งหลวง ที่มีกระแสน้ำรุนแรงและความยากในการ ล่องค่อนข้างสูง แก่งสาลี่ ที่จะเป็นแผ่นหินลาดเอียง ทำให้มีสายน้ำกระจายคล้ายน้ำเดือด แก่งวังไทรที่จะเป็นแผ่นหินลด
ระดับทำให้กระแสน้ำพุ่งแรงไปข้างหน้า ท้าทายเหล่านักผจญภัย
* ช่วงเดือนกันยา-กุมภา เป็นช่วงที่เหมาะจะล่องแก่งนี้ที่สุด เพราะล่องได้สบายและปลอดภัย

-ลำน้ำเข็ก จ.พิษณุโลก เริ่มล่องจากน้ำตกปอยช่วงล่วง ไปจนถึงน้ำตกแก่งซอง สำน้ำนี้มีจุดเด่นที่ มีระดับความ
ยากถึง 3-5 ตลอดการล่องแก่ง ซึ่งเหมาะที่จะล่องในช่วงเดือน มิถุนา - ตุลา
* นักท่องเที่ยวควรมีประสบการณ์จากสายน้ำอื่น ก่อนจะมาผจญลำน้ำเข็ก

- แก่งหินเพิง จ.ปราจีนบุรี ที่มีแก่งหนามล้อม แก่งวังบอน แก่งลูกเสือ แก่งวังยาว แก่งวังไทร และแก่งงูเห่า ที่จะสายน้ำให้ผจญภัยในระดับ 2-5 ใช้เวลาล่อง 2-5 ชั่วโมง ขึ้นกับ ฤดูกาล
* ช่วงที่เหมาะสมในการล่องแก่งนี้มาที่สุดคือหน้าฝน ตั้งแต่ กรกฎา - ตุลา ของทุกปี

-แก่งคลองกลาย จ. นครศรีธรรมราช คลองกลายมีลำน้ำไม่ลึกนัก สายน้ำไม่ใหญ่กอปรกับ มีโขดหินมากมาย ทำให้การล่องแก่งมีความสนุกสนานและตื่นเต้นตลอดการล่องแก่ง เสน่ห์ของการลอ่งแก่งที่นี่คือ สายน้ำที่ดุดัน และเป็นการล่องผ่านป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ตลอดทาง
*ช่วงที่เหมาะสมในการล่องตั้งแต่ ธันวา ไปจนถึงหน้าแล้ง

-แก่งไพรสวรรค์ จ.ตรัง จะล่องไปตามลำไพรสวรรค์ ที่มีความยาวประมาณ 1 กม. ตลอดเส้นทางมีโขดหิน
น้อยใหญ่และน้ำตกที่สูงประมาณ 1-2 เมตรขวางกั้นลำน้ำเป็นระยะ ทำให้มีความเร้าใจ ตลอดการล่องแก่ง นอกจากมีสองข้างทางยังเป็นป่าที่คงสภาพอุดมสมบูรณ์ ระดับความยาก 2-3 ระยะเวลาในการล่อง 2-3 ชั่วโมง
* ช่วงที่เหมาะสม กรกฎา - มกรา ของทุกปี

1. เป็นผู้ตามที่ดี
ปกติแล้วในการลอ่งแก่ง ทางผู้จัดทัวร์จะเตรียมฝีพายที่มีประสบการณ์ล่องแก่ง ให้เราสองคน คนแรก ทำหน้าที่คัดหัว ส่วนอีกคนคัดท้าย ซึ่งทั้งสองจะเป็นเหมือนกัปตันที่จะพาเรา ฝ่าแก่งต่าง ๆ ไปจนถึงจุดหมายดังนั้นเราจึงควรปฎิบัติ
ตามคำสั่งของกัปตันอย่างเคร่งครัด ซึ่งมีตัวอย่างดังนี้

ซ้าย-ขวา พาย พอได้ยินคำสั่งนี้พวกเราทั้งฝั่งซ้ายขวาของเรือ ให้ตั้งหน้าตั้งตาพายกันสุดชีวิตเลย
ซ้ายทวน - ขวาพาย ตอนนี้กับตันเรือท่านอยากให้เรือเลี้ยวขวา สมาชิกฝั่งขวาจ้วงเต็มกำลัง ส่วนฝั่งซ้ายให้พายทวนน้ำ
ล็อค "อ้าวววววววว ข้างหน้าอันตรายเอาขาเกี่ยวลูกบวบเรือไว้ ประเดี๋ยวตกน้ำกันหมด... " ถ้าได้ยินว่าล๊อคละก็.. ใครไม่อยากตกน้ำก็เกี่ยวให้ไวเชียว เอาล่ะ... เอาพอหอมปากหอมคอ ยังมีอีกเยอะเดี๋ยวไปเรียนกันต่อที่แก่งเลยละกัน